คู่มือสินเชื่อธุรกิจไม่มีหลักทรัพย์ | เช็กคุณสมบัติของฉัน | เช็กลิสต์เอกสาร | เปรียบเทียบสินเชื่อไม่ใช้หลักทรัพย์
ไม่มีหลักทรัพย์ก็ขอ “วงเงินสูง” ได้ ถ้ากระแสเงินสดและเอกสารเล่าเรื่องเดียวกัน บทความนี้สรุปตัวแปรที่ดันวงเงินจริง พร้อม Roadmap 90 วัน และเคสตัวอย่างที่ทำสำเร็จ
 ดู “เช็กลิสต์อนุมัติง่ายแบบละเอียด” → ไปหน้า สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก อนุมัติง่าย | อยาก “เลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงงาน” → ไปหน้า เงินกู้ SME อนุมัติง่าย | กันหลุมพราง → สินเชื่อ SME เทคนิคเพื่ออนุมัติง่าย 
ในสินเชื่อธุรกิจแบบไม่มีหลักทรัพย์ ผู้พิจารณาจะวาง “น้ำหนัก” ไปที่คุณภาพของ กระแสเงินสด และความสอดคล้องของ เอกสารที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ มากกว่าทรัพย์ประกัน เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ ตัวชี้วัดจึงเน้นความสามารถชำระหนี้จริง ได้แก่ ความสม่ำเสมอของเงินเข้า–ออกในบัญชี, โครงสร้างหนี้เดิม, คุณภาพลูกหนี้การค้า (aging), และอัตราส่วนความสามารถชำระหนี้ เช่น DSCR (Debt Service Coverage Ratio = รายรับเพื่อชำระหนี้ ÷ ภาระหนี้ต่อเดือน) หรือ DSR (Debt Service Ratio = ภาระหนี้ต่อเดือน ÷ รายได้ต่อเดือน) — นิยามครั้งเดียวนี้พอ
 	สิ่งที่หลายกิจการมองข้ามคือ “เรื่องเล่าทางการเงิน” ต้องไปในทิศเดียวกันทุกใบ: PO/สัญญา/ใบเสนอราคา, Invoice, รายการเดินบัญชี, หลักฐานส่งมอบ (ถ้ามี) และแผนเงินสดย่อหน้าเดียวที่บอกชัดว่า “จะใช้เงินทำอะไร–เงินเข้าเมื่อไร–คืนเมื่อไร” เมื่อเรื่องเล่าชัด วงเงินที่ได้ก็มีแนวโน้ม “สูงขึ้นและแม่นยำขึ้น” เพราะความเสี่ยงรับรู้ลดลง
รูปแบบเดินบัญชีสม่ำเสมอ – เงินเข้า–ออกนิ่งตามรอบธุรกิจ ลดการถอนเงินสดก้อนใหญ่ถี่ ๆ ทำให้ภาพรายได้จริงชัดขึ้น
 ลงมือทำ: แยกบัญชีธุรกิจ/ส่วนตัว, โอนเข้า–จ่ายออกผ่านบัญชีธุรกิจให้มากที่สุด, ตั้งรอบสรุปรายเดือนให้คงเส้นคงวา
รายได้จากลูกค้าหลักที่ต่อเนื่อง – มี 2–4 รายหลักที่ซื้อซ้ำ สัญญาหรือ PO ต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์เงินเข้าได้
 ลงมือทำ: เก็บประวัติการสั่งซื้อ/สัญญาที่ต่ออายุ และทำสรุปสั้น ๆ แนบในคำขอ
DSCR/DSR ที่เหมาะสม – โดยทั่วไป DSCR ≥ 1.x และ DSR ไม่ตึงเกินไปย่อมช่วยผลักวงเงิน
 ลงมือทำ: ลดภาระหนี้สั้นดอกแพง (รีไฟแนนซ์/ปิดบัญชีที่ไม่จำเป็น), ปรับงวดชำระให้เข้ากับรอบเงินเข้า
คุณภาพลูกหนี้การค้า (Aging) – บิลเกินกำหนดชำระจำนวนมากทำให้ความเสี่ยงสูง
 ลงมือทำ: จัดเก็บหนี้อย่างมีระบบ, แยกลูกหนี้ตามอายุบิล, มีแผนลดค้างเกิน 60–90 วัน
เอกสารการค้าที่สอดคล้องกับบัญชี – PO/ใบเสนอราคา/Invoice/หลักฐานส่งมอบ ต้องเล่าเรื่องเดียวกัน
 ลงมือทำ: ตรวจเอกสารด้วยเช็กลิสต์ก่อนยื่น และแนบ “ภาพกิจการ/ทรัพย์ที่จะซื้อ” เพื่อเพิ่มบริบท
โปรไฟล์ธุรกิจ/อุตสาหกรรม – ธุรกิจที่มีซีซันชัดเจนไม่ใช่ปัญหา หาก “เล่า” รอบพีค–โลว์และแผนสำรองไว้
เคล็ดลับ: จัดทำ “ตาราง 1 หน้า” ระบุ ตัวแปร–สถานะปัจจุบัน–สิ่งที่จะทำใน 90 วัน–เป้าหมายที่คาด แล้วแนบไปกับคำขอ ความชัดเจนนี้ช่วยดันวงเงินได้มากกว่าขอแบบกว้าง ๆ
วัน 1–7: ตั้งต้นด้วย “เรื่องเล่าทางการเงิน”
สรุปภาพรวม 12 เดือนย้อนหลังเป็นย่อหน้าเดียว: ยอดขายหลัก–ค่าใช้จ่ายหลัก–รอบเครดิตเทอมลูกค้า–ปัญหาที่ตึง พร้อมทำ แผนเงินสด 6–12 เดือน (ย่อหน้าเดียว) วางเส้นทาง “ใช้–เข้า–คืน” ให้สัมพันธ์กับดีลที่จะใช้เงิน (ย้ำ: โฟกัสดีลจริง ไม่แนบเอกสารกว้างเกินไป)
วัน 8–30: จัดระเบียบบัญชี + รวมเอกสารพิสูจน์รายได้
แยกบัญชีธุรกิจ/ส่วนตัวชัด ๆ ลดการถอนสดก้อนใหญ่ถี่ ๆ จากนั้นรวบรวม PO/สัญญา/ใบเสนอราคา/Invoice ล่าสุดของลูกค้าหลัก 2–4 ราย เพื่อพิสูจน์รายได้ต่อเนื่อง พร้อม “สรุป aging ลูกหนี้” แบบคร่าว ๆ แสดงสัดส่วนเกินกำหนด
วัน 31–60: ปรับโครงภาระหนี้ให้ DSCR/DSR ดีขึ้น
ตรวจบัตร/วงเงินสั้นดอกแพงที่แทบไม่ใช้ แล้วตัดลดหรือปิดบัญชีเพื่อให้ DSR เบาลง (หากจำเป็น) ปรับงวดชำระที่ชนรอบเงินเข้าเป็นงวด “หลังเงินเข้า 3–7 วัน” เพื่อลดความเสี่ยงค้าง
วัน 61–90: พรีสกรีน 2–3 ผู้ให้บริการ + ใช้แฟ้มเดียวกัน
ยื่นข้อมูลผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ (พรีสกรีน) พร้อมแฟ้มเอกสารเดียวกันทุกเจ้า: แผนเงินสดย่อหน้าเดียว, PO/ใบเสนอราคา, Invoice/เดินบัญชี 6–12 เดือน, สรุป aging ลูกหนี้, ภาพกิจการหรือทรัพย์ที่จะซื้อ และ “ตาราง 1 หน้า” ที่บอกว่าจะดันวินัยอะไรใน 90 วันข้างหน้า การใช้แฟ้มเดียวกันช่วยให้ผลที่ได้เทียบกันได้และไม่เสียเวลาตอบคำถามซ้ำ
ร้านนี้ขายทั้งหน้าร้านและ B2B ให้สำนักงาน/โรงแรม รายได้รวมดีแต่ “ภาพบัญชีไม่สวย” เพราะมีการถอนเงินสดก้อนใหญ่เพื่อจ่ายเงินเดือน/ค่าวัตถุดิบบ่อย ๆ ทำให้วงเงินที่มีอยู่เล็ก เมื่อมีโอกาสเข้าห้างสรรพสินค้า (ต้องขึ้นสต็อกจำนวนมาก) จึงต้องการวงเงินเพิ่มแบบไม่มีหลักทรัพย์
 	เราชวนเริ่มจาก “เรื่องเล่าทางการเงิน” ก่อน: สรุปยอดขาย 12 เดือน แยกรายได้หน้าร้าน–B2B ระบุเครดิตเทอมของลูกค้าองค์กร (30–45 วัน) และทำ แผนเงินสดย่อหน้าเดียว วางช่วงใช้–เข้า–คืนเงินสำหรับดีลเข้าห้าง จากนั้น
สัปดาห์ 1–2: เปิดบัญชีธุรกิจเฉพาะกิจกรรมค้าขาย โอนเงินเข้า–ออกผ่านช่องทางนี้ทั้งหมด และลดการถอนสดลงให้เหลือน้อยที่สุด
สัปดาห์ 3–4: เก็บ PO/ใบเสนอราคา จากห้างและลูกค้า B2B 2 รายที่สั่งซ้ำ พร้อม Invoice/เดินบัญชี 6–12 เดือน เพื่อแสดงความต่อเนื่อง
สัปดาห์ 5–6: ตรวจภาระหนี้สั้นที่ดอกแพง 2 บัญชี (แทบไม่ใช้) แล้วปิด เพื่อลด DSR ให้สมเหตุสมผลมากขึ้น และเปลี่ยนวันตัดจ่ายงวดเดิมให้ “หลังวันรับเงิน”
สัปดาห์ 7–8: ยื่น พรีสกรีน สองผู้ให้บริการด้วยแฟ้มเดียวกันทั้งหมด
 ผลลัพธ์คือได้ อนุมัติหลักการ จากทั้งสองแห่ง โดยแห่งหนึ่งเสนอวงเงินเพิ่ม ~1.8× และอีกแห่ง ~2.1× ภายในรอบทบทวน—ปัจจัยสำคัญคือเอกสารทุกใบเล่าเรื่องเดียวกันกับบัญชี (รายได้–เครดิตเทอม–รอบเงินเข้า) และเห็น “วินัยใหม่” ที่ทำมาแล้ว 6–8 สัปดาห์
 	บทเรียน: วงเงินของสินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ไม่ได้ขึ้นกับดวง แต่ขึ้นกับ คุณภาพกระแสเงินสด + วินัยบัญชี + เอกสารที่สอดคล้อง ทำให้ผู้พิจารณาเชื่อมั่นว่าธุรกิจ “ใช้–เข้า–คืน” ได้ตามแผนจริง
เดินบัญชีให้สะท้อนยอดขายจริง ลดถอนสดก้อนใหญ่ถี่ ๆ
สร้าง “แผนเงินสด 6–12 เดือน” ย่อหน้าเดียว (ใช้–เข้า–คืน)
รวบรวม PO/สัญญา/ใบเสนอราคา/Invoice ที่สัมพันธ์กับดีลที่จะใช้เงิน
ทำสรุป aging ลูกหนี้ และแผนลดค้างเกิน 60–90 วัน
ปรับ DSCR/DSR ให้เหมาะ: ปิด/รีไฟแนนซ์หนี้สั้นดอกแพง, ตั้งวันตัดหลังเงินเข้า
ใช้ “แฟ้มเดียวกัน” ยื่นพรีสกรีน 2–3 ผู้ให้บริการ เพื่อเทียบข้อเสนออย่างยุติธรรม
เก็บ “รูปกิจการ/ทรัพย์ที่จะซื้อ” เพื่อเสริมบริบทให้เรื่องเล่าทางการเงิน
 หมายเหตุ: ถ้าต้องการ เช็กลิสต์อนุมัติแบบครบทุกเอกสาร, โปรดไปอ่านที่หน้า [สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก อนุมัติง่าย] (ใส่ลิงก์จริง) ซึ่งเป็น “หน้าเจ้าของคีย์” ของคำนี้
ถาม: ไม่มีหลักทรัพย์ วงเงินพิจารณาจากอะไรเป็นหลัก?
 ตอบ: คุณภาพกระแสเงินสด (เดินบัญชีจริง), ความต่อเนื่องรายได้/ลูกค้าหลัก, DSCR/DSR, aging ลูกหนี้, เอกสารการค้าที่สอดคล้องกับบัญชี และแผนเงินสดที่ชี้ชัด “ใช้–เข้า–คืน”
ถาม: จะปรับ DSCR/DSR ให้ดีขึ้นภายใน 60 วันได้ยังไง?
 ตอบ: ลดภาระหนี้สั้นดอกแพงที่ไม่จำเป็น, ย้ายวันตัดงวดให้หลังวันรับเงิน, รวมภาระเล็ก ๆ หลายก้อนให้เหลือก้อนเดียวที่ถูกกว่า (หากเหมาะสม) และเพิ่มรายได้ที่ตรวจสอบได้ผ่านบัญชีธุรกิจ
ถาม: ต้องใช้เอกสารเยอะไหมถ้าจะเพิ่มวงเงิน?
 ตอบ: โฟกัส “เอกสารที่สัมพันธ์กับดีลจริง” เป็นหลัก: PO/ใบเสนอราคา/สัญญา, Invoice/เดินบัญชี 6–12 เดือน, หลักฐานส่งมอบ (ถ้ามี), แผนเงินสดย่อหน้าเดียว—เพียงพอให้กระบวนการเดินไว โดยรายละเอียดเอกสารอื่น ๆ ดูที่หน้าเช็กลิสต์ใหญ่
การ “เพิ่มวงเงิน” ในสินเชื่อ SME แบบไม่มีหลักทรัพย์ไม่ใช่เรื่องเสี่ยง หากคุณทำให้ กระแสเงินสดดูเป็นระบบ, DSCR/DSR สมเหตุสมผล, เอกสารทุกใบเล่าเรื่องเดียวกัน และวางแผน “ใช้–เข้า–คืน” ชัดเจน หนึ่งแฟ้มเอกสารที่ครบและสัมพันธ์กับดีลจริง จะพาคำขอของคุณเข้าใกล้ วงเงินสูงสุด ได้อย่างมีวินัย
 พร้อมเริ่มหรือยัง? พรีสกรีนเบื้องต้น เพื่อประเมินทิศทางวงเงินของคุณ