ถ้าคุณกำลังหาทางเลือก สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ 2568 เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ลองดูให้ลึกกว่าดอกเบี้ย—เพราะ “โครงสร้างสินเชื่อ” มีผลต่อกระแสเงินสดจริงมากกว่า บทความนี้สรุปข้อดี–ข้อควรระวังของตัวเลือกหลัก ๆ เช่น Term Loan, วงเงินหมุนเวียน และ แฟคตอริ่ง (Factoring/Invoice Financing) เพื่อช่วยตัดสินใจอย่างคุ้มค่าตามรอบเงินจริงของกิจการ
Term Loan ไม่มีหลักทรัพย์ – กู้ก้อน ผ่อนคงที่ เหมาะกับการลงทุน/ขยายกิจการ
วงเงินหมุนเวียน (OD/Revolving) – ใช้เมื่อจำเป็น คิดดอกเฉพาะยอดใช้จริง เหมาะกับทุนหมุนเวียนระยะสั้น
Invoice Financing / Factoring – เปลี่ยนหนี้การค้าเป็นเงินสด รับเงินก่อนลูกค้าจ่าย
สินเชื่อจากยอดขาย (Merchant/QR Cash Advance) – หัก % จากยอดขายรายวัน/รายเดือน ไม่มีค่างวดคงที่
PO/Contract/Supply Chain Finance – ใช้สัญญาซื้อขาย/งานที่ได้รับ เป็นฐานขอทุนล่วงหน้า
บสย. ค้ำประกัน (TCG Guarantee) – ไม่ใช่หลักทรัพย์ของผู้กู้ แต่เป็น “การค้ำจากบสย.” ช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติ/วงเงิน
เด่น
ยอดเงินก้อนใหญ่ เคลียร์แผนลงทุนได้ชัด (เครื่องจักร รีโนเวต เปิดสาขา สต๊อกล็อตใหญ่)
ค่างวดคงที่ วางแผนกระแสเงินสดระยะ 12–60 เดือนได้
ควรระวัง
ใช้เงินก้อนแล้ว แต่รายได้จริงอาจทยอยเข้า ต้องบริหารสภาพคล่องดี ๆ
ปิดก่อนกำหนด/ปรับโครงสร้าง อาจมีค่าธรรมเนียม
เหมาะกับ ธุรกิจที่รายได้ค่อนข้างเสถียร มีแผนลงทุนชัด และต้องการความแน่นอนของค่างวด
เด่น
คิดดอกเฉพาะยอดที่ใช้จริง ไม่ใช้ไม่เสีย
คล่องตัวมาก แก้ “ช่องว่างเงินเข้า–เงินออก” ระยะสั้นได้ดี
ควรระวัง
มักทบทวนวงเงินเป็นรายปี ต้องรักษาวินัยการเงินและ Statement ให้ดี
ถ้าใช้เต็มเพดานต่อเนื่อง แปลว่าวงเงินอาจเล็กเกิน ต้องทบทวนโครงสร้าง
เหมาะกับ ธุรกิจที่มีรอบเงินเข้าชัด (เช่น โอนรายสัปดาห์/เดือน) และมีการหมุนสต๊อก/จ่ายค่าวัตถุดิบต่อเนื่อง
แฟคตอริ่ง เหมาะกับธุรกิจ B2B ที่มีเครดิตเทอมยาว ช่วยเร่งเงินสด 70–90% ของใบแจ้งหนี้ภายในไม่กี่วัน ต้นทุนผันตาม “จำนวนวันคงค้าง” จึงยืดหยุ่นกว่าสินเชื่อผ่อนคงที่
เด่น : ได้เงินไว ลดเงินจมในลูกหนี้การค้า รองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ได้เงินสด 70–90% ของมูลค่าใบแจ้งหนี้ภายในไม่กี่วัน ช่วยแก้เครดิตเทอมยาว
ต้นทุน “ผันตามจำนวนวันคงค้าง” ยืดหยุ่นกว่าสินเชื่อผ่อนคงที่
ควรระวัง :
ลูกค้าจ่ายช้า = ต้นทุน แฟคตอริ่ง สูงขึ้น ต้องคุมเอกสาร/เครดิตคู่ค้าให้ดี
ต้องมีเอกสารครบ (PO/DO/INV ใบส่งของ ใบลงนามรับของ ฯลฯ)
เหมาะกับ โรงงาน/ซัพพลายเออร์ B2B ที่มีเครดิตเทอมยาว และต้องการปลดล็อกเงินจมในลูกหนี้การค้า
เด่น
ไม่มีค่างวดคงที่ ระบบหัก % จากยอดขาย/รูดบัตร/QR อัตโนมัติ
ยอดขายมาก–หนี้ลดเร็ว ยอดขายช้า–หักช้าตามจริง ไม่กดดันกระแสเงินสด
ควรระวัง
อัตราค่าธรรมเนียมรวมโดยเฉลี่ยมักสูงกว่า Term Loan
ต้องดู “ต้นทุนแท้จริง (Effective APR)” ไม่ใช่ดูแค่ % ที่โฆษณา
เหมาะกับ ร้านอาหาร/ค้าปลีกที่มียอดขายผ่านเครื่อง EDC/QR ต่อเนื่อง และต้องการความยืดหยุ่นสูง
เด่น
ใช้สัญญาซื้อขาย/สัญญารับงานเป็นฐานขอทุนล่วงหน้า
เงินออกเป็นงวดตามความคืบหน้า ลดความตึงตัวระหว่างทำงาน
ควรระวัง
เอกสารสัญญา และการยืนยันงานแต่ละงวดต้องชัด
งานเลท = เงินงวดถัดไปช้า ต้องบริหาร Buffer
เหมาะกับ ผู้รับเหมางานรัฐ/เอกชน งานโปรเจกต์ที่ต้องสำรองวัสดุ/แรงงานก่อนรับเงิน
เด่น
เพิ่มโอกาสอนุมัติ/เพิ่มวงเงิน ทั้งที่ไม่มีหลักทรัพย์เป็นของตนเอง
ใช้ร่วมกับรูปแบบสินเชื่อข้อ 1–5 ได้
ควรระวัง
มีค่าธรรมเนียมค้ำประกันของบสย. ต้องคิดรวมเป็นต้นทุน
ยังต้องผ่านการประเมินความสามารถชำระหนี้ตามเกณฑ์ปกติ
เหมาะกับ ผู้ประกอบการที่เอกสารดี พฤติกรรมการเงินชัด แต่ขาดหลักทรัพย์—อยากขอวงเงินใหญ่ขึ้น
ร้านอาหาร/ค้าปลีก → Cash Advance สำหรับยืดหยุ่นรายวัน + วงเงินหมุนเวียนเล็ก ๆ เป็นกันชน
ผู้รับเหมาก่อสร้าง → PO/Contract Finance สำหรับวัสดุ/แรงงาน + วงเงินหมุนเวียนไว้รับเงินงวด
ซัพพลายเออร์ B2B → Invoice Financing ปลดล็อกลูกหนี้การค้า + Term Loan ลงทุนขยายกำลังผลิต
อย่าลืม: แบบใดแบบหนึ่ง “ดีที่สุด” ไม่มีจริง—มักต้องคอมโบ 2–3 แบบ ให้พอดีกับรอบเงินของธุรกิจคุณ
เวลาปรับเทียบหลายแบบ ให้แปลงทุกอย่างเป็น “อัตราต่อปีโดยประมาณ” แล้วค่อยตัดสินใจ
รวบรวม ดอกเบี้ย + ค่าธรรมเนียม + ค่าค้ำ (ถ้ามี)
ดู จำนวนเงินที่ได้รับจริง หลังหักค่าธรรมเนียมต้นทาง
ประเมิน ระยะเวลาถือเงิน (เช่น 90 วันในกรณีอินวอยซ์, 12 เดือนในเทอมโลน)
คำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปีเทียบกัน (ทำในสเปรดชีตก็ได้)
ถ้า Effective Cost ใกล้กัน ให้เลือกแบบที่ กระทบกระแสเงินสด “น้อยกว่า” และ เสี่ยงปฏิบัติการต่ำกว่า
รอบเงินเข้าจริงของเรา (รายวัน/สัปดาห์/เดือน)
เงินจมอยู่ตรงไหน (สต๊อก/ลูกหนี้/งวดงาน)
ต้องการ “กู้ก้อน” หรือ “กันชนหมุนเวียน”
แผนชำระ/ปิดก่อนกำหนดได้ไหม
เอกสารครบแค่ไหน (Statement, ภ.พ., งบการเงิน/รายได้, PO/INV)
เครดิตคู่ค้า/คู่สัญญาแข็งแรงหรือไม่ (ถ้าขอแบบอิงลูกหนี้/สัญญา)
รับได้แค่ไหนถ้าทอนยอดขายออกไปบางส่วนทุกวัน (ใน Cash Advance)
ถ้าเพิ่มบสย.ค้ำ วงเงิน/เงื่อนไขดีขึ้นพอคุ้มค่าค้ำหรือไม่
หนังสือรับรอง/ภ.พ.20, บัตร ปชช./ทะเบียนพาณิชย์
Statement ธุรกิจ 6–12 เดือน (ยิ่งยาวยิ่งดี)
เอกสารภาษี/รายได้ (ภ.พ.30/50, งบการเงิน/สรุปรายได้)
เอกสารงาน/ลูกหนี้ (PO/DO/Invoice/สัญญา) — กรณีอินวอยซ์/PO Finance
เอกสารเครื่องรูด/ยอดขาย QR — กรณี Cash Advance
เช็กคุณสมบัติของฉัน | เช็กลิสต์เอกสาร
ร้านกาแฟมี EDC/QR แข็งแรง: ใช้ Cash Advance หมุนระยะสั้น + เก็บวงเงิน OD เล็ก ๆ กันเหตุฉุกเฉิน
โรงงานเล็กขาย B2B เทอม 60 วัน: ใช้ Invoice Financing แปลงลูกหนี้เป็นเงินสด + Term Loan ลงทุนเครื่องจักร
ผู้รับเหมาได้งานรัฐ: ใช้ PO/Contract Finance สำหรับค่าวัสดุ + OD กันความเหลื่อมล้ำของการเบิกงวด
Q: ทำไมดอกเบี้ยบางแบบดูถูกกว่ามาก?
A: บางแบบคิด “ต่อวัน/ต่อรอบ” ไม่ใช่ต่อปี ต้องรวมค่าธรรมเนียมและแปลงเป็น Effective Cost เทียบกัน
Q: ขาดทุนทางบัญชีขอได้ไหม?
A: มีโอกาส ถ้ากระแสเงินสดจริงแข็งแรง ยอดขายเติบโต และเอกสารรอบเงินชัด (บางแบบอิงลูกหนี้/ยอดขาย)
Q: เครดิตบูโรมีปัญหานิดหน่อย?
A: อาจยังขอได้ แต่ควรอธิบายสาเหตุ–แนวทางแก้ และเลือกแบบที่อิงเอกสารธุรกิจมากกว่าเครดิตส่วนตัว
Q: บสย. คือหลักทรัพย์ไหม?
A: ไม่ใช่ เป็น “ผู้ค้ำประกัน” ช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติ/วงเงิน แต่มีค่าค้ำ ต้องคำนวณรวมต้นทุน
ถ้าดูแล้วยังลังเล ให้เริ่มจาก เลือกโจทย์เงินสดหลัก 1 ข้อ (กู้ก้อน / กันชน / ปลดล็อกลูกหนี้ / ยอดขาย) แล้วจับคู่สินเชื่อ 1–2 แบบที่ตอบโจทย์ที่สุด จากนั้นค่อยเปรียบเทียบต้นทุนแท้จริงและความเสี่ยงปฏิบัติการ
→ เช็กคุณสมบัติของฉัน | → เช็กลิสต์เอกสาร | → คู่มือภาพรวมทั้งหมด