หน้าหลัก > ความรู้ > รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ sme > สินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับธุรกิจคืออะไร?
หน้าหลัก > ความรู้ > รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ sme > สินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับธุรกิจคืออะไร?
ทำความเข้าใจ รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ แบบอ่านง่าย: คืออะไร ต่างจากกู้ใหม่อย่างไร ค่าใช้จ่ายต้องรู้อะไร และควรเตรียมเอกสารใด
[เช็กคุณสมบัติ] [เช็กลิสต์เอกสาร]
กลับหน้าแม่: รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
สินเชื่อรีไฟแนนซ์ คือการย้ายหนี้เดิมของกิจการไปสู่สัญญาใหม่ที่เงื่อนไขเหมาะกว่า เช่น ดอกเบี้ยต่ำลง ค่างวดสมดุลขึ้น หรือเปลี่ยนชนิดสินเชื่อให้ตรงกับการใช้เงินจริง (เช่น แยกก้อน “เครื่องจักร/ลงทุนระยะยาว” ไปผ่อนรายงวด และคง “วงเงินหมุนเวียน” ไว้กับค่าใช้จ่ายประจำ) เป้าหมายคือจัดโครงสร้างหนี้ให้ “พอดีกับกิจการวันนี้” ไม่ใช่แค่กู้เพิ่มอย่างไม่มีแผน
กู้ใหม่ = เพิ่มหนี้ก้อนใหม่เพื่อขยายกิจการ
 รีไฟแนนซ์ = ปรับแพ็กเกจหนี้เดิมให้คุ้มขึ้น (อาจมีค่าใช้จ่ายย้าย แต่ถ้าคำนวณดี ผลรวมตลอดสัญญามักประหยัดและบริหารเงินสดง่ายขึ้น)
ร้านอาหารแห่งหนึ่งมีสินเชื่อ SME วงเงิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 8% ต่อปี หลังจากรีไฟแนนซ์ไปยังธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ย 5% ทำให้ประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 60,000 บาทต่อปี
โรงงานผลิตชิ้นส่วนขนาดเล็กมีภาระผ่อนชำระสูงถึงเดือนละ 150,000 บาท หลังรีไฟแนนซ์และขยายระยะเวลาผ่อน ทำให้ภาระลดลงเหลือ 100,000 บาทต่อเดือน เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ
ร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการขยายสต็อกสินค้า สามารถรีไฟแนนซ์พร้อมขอวงเงินเพิ่มจาก 1 ล้านบาทเป็น 1.5 ล้านบาท โดยไม่ต้องยื่นขอสินเชื่อใหม่ ช่วยให้ขยายธุรกิจได้รวดเร็ว
▲ ดอกเบี้ยรวมหรือค่างวดต่อเดือนเริ่มกดดันกระแสเงินสด
 ▲ มีหนี้หลายก้อน กระจัดกระจาย คุมยาก
 ▲ โครงสร้างหนี้ไม่เข้ากับการใช้งานจริง (เช่น ใช้วงเงินหมุนเวียนกับรายจ่ายก้อนยาว)
 ▲ ต้องการเพิ่มวงเงินเพื่อเติบโต แต่สัญญาเดิมไปต่อยาก
 ▲ พบข้อเสนอใหม่ที่เงื่อนไขดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
▲ ลดต้นทุนทางการเงิน (ดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียมบางส่วน)
 ▲ ทำค่างวดให้รับกับรายได้จริง หมุนเงินคล่องขึ้น
 ▲ รวมภาระหนี้ให้ดูแลง่าย ลดงานติดตามหลายบัญชี
 ▲ ปรับ “ชนิดสินเชื่อ” ให้สอดคล้องรูปแบบธุรกิจ
 ▲ วางฐานข้อมูลการชำระหนี้ให้ดีขึ้น เพื่อโอกาสวงเงินในอนาคต
▲ ค่างวดลด ไม่ได้แปลว่า “ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญา” จะลดเสมอ หากยืดงวดมากไป ดอกเบี้ยสะสมอาจสูงขึ้น
 ▲ มี ค่าใช้จ่ายย้าย ที่ต้องนับให้ครบ (ดูหัวข้อถัดไป)
 ▲ เลือกขนาดวงเงินให้พอดี หลีกเลี่ยงการใช้วงเงินเกินความจำเป็น
 ▲ อ่านเงื่อนไข “ปิดก่อนกำหนด” ให้ชัด หากตั้งใจโปะเร็ว
▲ ค่าประเมินหลักประกัน/ทรัพย์สิน
 ▲ ค่าธรรมเนียมจัดทำสัญญา/อากรแสตมป์/ค่าจดทะเบียน
 ▲ ค่าใช้จ่ายปิดสัญญาเดิมก่อนกำหนด (ถ้ามี)
 ▲ ค่าธรรมเนียมโอน/ค่าบริหารจัดการอื่น ๆ
 เคล็ดลับ: รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็น “ก้อนเดียว” แล้วเทียบกับ “เงินที่ประหยัดต่อเดือน” จากข้อเสนอใหม่ เพื่อดูว่าคุ้มหรือไม่
▲ คงวงเงินเดิม เปลี่ยนฐานดอกเบี้ย/แพ็กเกจ — ลดต้นทุนเร็วโดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างมาก
 ▲ ยืดงวดเท่าที่จำเป็น — คลายแรงกดค่างวด แต่ควรมี “แผนโปะ” ระหว่างทางเพื่อลดดอกสะสม
 ▲ รีแพ็กเกจหนี้ — แยก “ลงทุนระยะยาว” ไปผ่อนรายงวด/เช่าซื้อ และคง “หมุนเวียนจริง” ไว้ในวงเงินหมุนเวียน
 ▲ รวมหนี้หลายก้อน — รวมเป็นก้อนเดียวให้จัดการง่าย ลดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน (ต้องมีกติกาวินัยหลังรวม)
 ▲ รีไฟแนนซ์ระยะสั้น — คลายค่างวดเฉพาะช่วงเงินตึง/ฤดูกาล พร้อมกติกา “วันเงินเข้า = วันโปะ”
กำหนดเป้าหมายชัดเจน (ลดดอกเบี้ย/ลดค่างวด/เพิ่มวงเงิน/เปลี่ยนชนิดสินเชื่อ)
รวบรวมข้อมูลหนี้เดิม (ยอดคงเหลือ อัตราดอกเบี้ย งวดที่เหลือ เงื่อนไขปิดก่อนกำหนด หลักประกัน)
คำนวณคร่าว ๆ จุดคุ้มทุน + ตรวจ DSCR ให้ไม่ต่ำลง
เตรียมเอกสารสำคัญ (ดูเช็กลิสต์ด้านล่าง)
ขอข้อเสนออย่างน้อย 2–3 แห่ง เปรียบเทียบทั้งดอกเบี้ย ค่างวด ค่าธรรมเนียม และความยืดหยุ่น
ดำเนินการอนุมัติ–โอนปิดสัญญาเดิม ยืนยันตารางผ่อนใหม่ให้สอดคล้องรอบเงินสด
ติดตามผลหลังรีไฟแนนซ์ 1–3 เดือน (ค่างวด/รายได้ต่อเดือน, เงินสดคงเหลือ, DSCR)
▲ เอกสารนิติบุคคล (หนังสือรับรอง/บอจ.5/ภ.พ.20) หรือบัตรประชาชน–ทะเบียนบ้าน (บุคคลธรรมดา)
 ▲ งบการเงินย่อ และสรุปเงินเข้า–ออกย้อนหลัง 6–12 เดือน
 ▲ รายการเดินบัญชีธนาคาร (Bank Statement) 6–12 เดือน
 ▲ ข้อมูลสัญญาหนี้เดิม: ยอดคงเหลือ อัตราดอกเบี้ย งวดที่เหลือ เงื่อนไขปิดก่อนกำหนด
 ▲ เอกสารหลักประกัน (ถ้ามี): โฉนด/เล่มทะเบียน/สัญญาเช่าซื้อเดิม ฯลฯ
 ▲ เอกสารประกอบการใช้เงิน: ใบเสนอราคา/PO/สัญญาซื้อขาย/รายชื่อลูกค้าหลักและเครดิตเทอม
 ▲ แผนการเงิน 6–12 เดือนข้างหน้าอย่างย่อ
ถาม: รีไฟแนนซ์แล้วค่างวดถูกลง ดอกเบี้ยรวมอาจมากขึ้นไหม?
 ตอบ: เป็นไปได้ หากยืดงวดมากเกินไป ควรวาง “แผนโปะ” และดู “ยอดรวมตลอดสัญญา” ไม่ใช่แค่ค่างวดรายเดือน
ถาม: ต้องรอให้ดอกเบี้ยตลาดลงก่อนหรือไม่?
 ตอบ: ไม่จำเป็นเสมอไป หากแพ็กเกจใหม่ “เหมาะกับรูปแบบธุรกิจ” มากกว่า ผลรวมอาจคุ้มแม้อัตราใกล้เดิม
ถาม: รีไฟแนนซ์แล้วขอเพิ่มวงเงินได้หรือไม่?
 ตอบ: ได้ หากกระแสเงินสดรองรับและเอกสารสะท้อนความสามารถชำระหนี้ชัดเจน
ถาม: เอกสารไหนช่วยให้อนุมัติง่ายขึ้น?
 ตอบ: งบย่อที่อ่านง่าย + สเตทเมนต์ชัด + แผนใช้เงินที่สอดคล้องรายได้/งานในมือ
• รีไฟแนนซ์ธุรกิจคืออะไร? — ความหมาย ขั้นตอน เอกสาร ค่าใช้จ่ายที่พบบ่อย
• คุ้มไหมถ้าจะย้ายหนี้ — วิธีคิดเลขจุดคุ้มทุนแบบง่าย ๆ
• เพลย์บุ๊ก ลดดอกเบี้ย — แนวทางต่อรอง เปลี่ยนฐานดอกเบี้ย ยืดงวดเท่าที่จำเป็น
• รวมหนี้ธุรกิจหลายก้อน — รวมเป็นก้อนเดียวให้ง่ายขึ้นและลดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
• รีไฟแนนซ์ระยะสั้น — คลายค่างวดเฉพาะช่วงที่เงินตึง
• สำหรับโรงงาน/การผลิต — จับคู่สินเชื่อให้ “ทันรอบเงินสด”
กลับหน้าแม่: รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ