หน้าหลัก > ความรู้ > สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน > สินเชื่อธุรกิจแบบมีหลักประกัน ดอกเบี้ยต่ำ
หน้าหลัก > ความรู้ > สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน > สินเชื่อธุรกิจแบบมีหลักประกัน ดอกเบี้ยต่ำ
อยากได้ ดอกเบี้ยต่ำ แต่ยังคง วงเงินสูง สำหรับลงทุนขยายโรงงาน ซื้อเครื่องจักร หรือรับงานโครงการ? บทความนี้สรุปตัวแปรที่ผู้ให้กู้พิจารณา และ วิธีลดต้นทุนแบบทำได้จริง ของ สินเชื่อแบบมีหลักประกัน/สินเชื่อมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เหมาะกับเจ้าของกิจการและ สินเชื่อ SME
ภาพรวมทั้งหมด: สินเชื่อเพื่อธุรกิจแบบมีหลักประกัน
ดอกเบี้ย: ค่าใช้เงินตามอัตราที่ระบุในสัญญา (ต่อปี)
EIR (Effective Interest Rate) = ต้นทุนจริงที่รวมค่าธรรมเนียม/ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสินเชื่อแล้ว (ช่วยเทียบข้อเสนอหลายเจ้าได้ยุติธรรมกว่า)
 หลักคิด: ต่อให้ดอกประกาศต่ำ ถ้าค่าธรรมเนียมแฝงเยอะ EIR อาจสูงกว่า
ความเสี่ยงทรัพย์ค้ำต่ำ: อสังหาฯทำเลดี สภาพเยี่ยม ขายต่อได้ → ผู้ให้กู้เสี่ยงน้อย
เอกสารธุรกิจโปร่งใส: งบการเงิน/สเตทเมนต์สม่ำเสมอ ไม่กระโดดผิดปกติ
กระจายรายได้/ลูกค้า: ไม่พึ่งลูกค้ารายเดียว ลดความเสี่ยงกระแสเงินสด
สัดส่วนเงินกู้เหมาะสม (LTV/DSCR): วงเงินสอดคล้องมูลค่าทรัพย์และความสามารถชำระ
วินัยการชำระดีในอดีต: ประวัติชำระตรงเวลา ทำให้ต่อรอง ดอกเบี้ยต่ำ ง่ายขึ้น
เลือกทรัพย์ค้ำที่เสี่ยงต่ำเป็นหลัก
ทำไมสำคัญ: ทรัพย์สภาพคล่องสูง (เช่น โกดัง/โรงงานทำเลดี) ทำให้ผู้ให้กู้เสี่ยงต่ำ → ต่อรอง ดอกเบี้ยต่ำ ง่าย
ทำอย่างไร: เริ่มจากอสังหาฯทำเลอุตสาหกรรม/ติดถนนหลัก สภาพใช้งานดี เอกสารสิทธิชัด แล้วค่อย “เสริม” เครื่องจักรหรือยานพาหนะหากต้องการ วงเงินสูง ขึ้น
เอกสารช่วยต่อรอง: โฉนด+ผัง/รูปถ่ายหลายมุม/ประวัติการใช้ประโยชน์/สัญญาเช่า (ถ้ามี)
เคลียร์เอกสารกรรมสิทธิ์ให้สะอาด
ทำไมสำคัญ: เอกสารสะอาดลดความเสี่ยงทางกฎหมายและเวลาอนุมัติ → ส่งผลบวกต่ออัตราดอก
ทำอย่างไร: ตรวจชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ให้ตรงนิติบุคคล, เช็กภาระผูกพัน (จำนอง/อายัด/ภาระจำยอม) และวางแผนเคลียร์/รีไฟแนนซ์ก่อนยื่น
รายการเช็ก: โฉนด/ใบอนุญาตปลูกสร้าง/แบบก่อสร้าง/ผังบริเวณ/แผนที่ระวาง + หนังสือยินยอมผู้ถือครองร่วม (ถ้ามี)
แนบหลักฐานรายได้จากทรัพย์
ทำไมสำคัญ: ทรัพย์ที่ “สร้างเงินสด” (เช่น อาคารให้เช่า) มีความเสี่ยงต่ำกว่า → ดอกดีกว่า
ทำอย่างไร: แนบสัญญาเช่า/อัตราครองพื้นที่/สเตทเมนต์รับค่าเช่าย้อนหลัง 6–12 เดือน หรือใบรับงานที่อ้างอิงการใช้ทรัพย์
เคล็ดลับ: ทำตาราง “รายได้จากทรัพย์ต่อเดือน” ให้เห็นความสม่ำเสมอ
แสดงกระแสเงินสดที่นิ่ง (งบ/สเตทเมนต์)
ทำไมสำคัญ: ผู้ให้กู้ดู “จ่ายไหวจริงไหม” จากงบการเงิน/เงินเข้าออกในบัญชี ถ้านิ่ง → ดอกเบี้ยต่ำ ง่าย
ทำอย่างไร: เตรียมงบล่าสุด + สเตทเมนต์ 6–12 เดือน แยกรายได้ประจำ/รายจ่ายหลัก และอธิบายรายการผิดปกติ (ถ้ามี)
ตัวชี้วัด: มีเงินสดคงเหลือพอค่างวด, ไม่มีรายการเด้ง/ค้างผิดนัด
ขอรูปแบบ “เบิกเป็นงวด (Drawdown)” สำหรับโครงการ
ทำไมสำคัญ: จ่ายดอกเฉพาะยอดที่เบิกจริง ลดต้นทุนช่วงต้นงาน/ก่อสร้าง
ทำอย่างไร: แนบไทม์ไลน์โครงการ+มาร์กสโตน (ฐานราก/โครงสร้าง/ติดตั้ง/ทดสอบ) ให้ตรวจรับง่าย แล้วกำหนดงวดเบิกผูกกับหลักฐาน (ภาพถ่าย/ใบตรวจรับ)
ผลลัพธ์: ลด EIR เพราะไม่ต้องถือเงินก้อนใหญ่ตั้งแต่วันแรก
ทำประกันทรัพย์ (อาคาร/เครื่องจักร)
ทำไมสำคัญ: ลดความเสี่ยงทรัพย์เสียหาย—ผู้ให้กู้มักให้เงื่อนไขดีขึ้น
ทำอย่างไร: ทำกรมธรรม์คุ้มครองความเสี่ยงหลัก (ไฟไหม้ น้ำท่วม ความเสียหายเครื่องจักร) ระบุทรัพย์และมูลค่าชัด
ทิป: นำใบเสนอราคาประกันแนบไปพร้อมคำขอสินเชื่อเพื่อสะท้อนการบริหารความเสี่ยง
ค้ำผสมเพื่อกดความเสี่ยง (Blended LTV)
ทำไมสำคัญ: เฉลี่ยความเสี่ยงด้วยการใช้หลายทรัพย์ → LTV รวมดูแข็งแรงขึ้น, ข้อเสนอ วงเงินสูง และอัตราดอกมัก “สบายขึ้น”
ทำอย่างไร: คู่หลักเป็นอสังหาฯ (LTV สูง) + เสริมเครื่องจักร/ยานพาหนะ/เงินฝาก → ลดแรงกดจากทรัพย์เสี่ยงชิ้นเดียว
เอกสาร: ทำ “Asset Pack” ต่อทรัพย์ (รูป/สเปก/ซีเรียล/ผัง/โฉนด) ให้ตรวจง่าย
เจรจา Package ค่าธรรมเนียม เพื่อลด EIR
ทำไมสำคัญ: ดอกเบี้ยอาจต่ำ แต่ค่าธรรมเนียมสูงทำให้ EIR แพง
ทำอย่างไร: ขอส่วนลด/ยกเว้นค่าประเมิน, ค่าจัดสินเชื่อ, ค่าธรรมเนียมรายปี, ค่าไถ่ถอนก่อนกำหนด (ถ้าคาดว่าจะปิดก่อน)
เคล็ดลับ: เสนอ “ความพร้อมเอกสาร+ตารางเบิก” เพื่อแลกแพ็กเกจค่าธรรมเนียมที่ดีกว่า
เปรียบเทียบหลายข้อเสนอ (≥ 2 เจ้า) และตัดสินใจจาก EIR
ทำไมสำคัญ: “ดอกประกาศ” ต่ำไม่ได้แปลว่าถูกสุดเสมอ ต้องดู EIR ภายใต้พฤติกรรมใช้เงินจริง
ทำอย่างไร: ขอ Term Sheet อย่างน้อย 2–3 เจ้า ใส่สมมติฐานเดียวกัน (ยอดกู้, งวดเบิก, วันที่เริ่มผ่อน) แล้วคำนวณ EIR เทียบ
ตัวอย่าง: ข้อเสนอ A ดอกต่ำแต่มีค่าจัดสินเชื่อ 1% vs ข้อเสนอ B ดอกสูงกว่าเล็กน้อยแต่ค่าธรรมเนียม 0% — ถ้าเบิกเป็นงวดหรือปิดก่อนกำหนด ข้อเสนอ B อาจคุ้มกว่า
ข้อเสนอ A: ดอก 6.25% ต่อปี + ค่าธรรมเนียมจัดสินเชื่อ 1.0%
ข้อเสนอ B: ดอก 6.75% ต่อปี + ค่าธรรมเนียม 0%
ถ้ายอดกู้ 10 ลบ. ถือ 12 เดือนเต็ม ข้อเสนอ A อาจยังถูกกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าเบิกเป็นงวด/ปิดก่อนกำหนด ข้อเสนอ B อาจคุ้มกว่า → เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมคงที่ตั้งแต่ต้น
 บทเรียน: เทียบ EIR ภายใต้ “รูปแบบเบิก–ใช้จริงของเรา”
งบการเงินล่าสุด + สเตทเมนต์ 6–12 เดือน
Asset Pack ทรัพย์ค้ำ: โฉนด/รูปหลายมุม/ผัง/ใบอนุญาต (อสังหาฯ), ใบกำกับ–สเปก–ซีเรียล–ประวัติบำรุง (เครื่องจักร)
แผนใช้เงิน + ไทม์ไลน์โครงการ + ตารางชำระ (สั้น กระชับ แต่ตัวเลขตรง)
หลักฐานรายได้จากทรัพย์ (ถ้ามี): สัญญาเช่า/อัตราครองพื้นที่/รายได้ย้อนหลัง
Q: ดอกต่ำต้องแลกด้วยเงื่อนไขเข้มขึ้นไหม?
 A: มักใช่ เช่น เอกสารละเอียดขึ้น LTV/DSCR เข้มขึ้น แต่คุ้มเพราะต้นทุนรวมลด
Q: ขอลดดอกได้อีกหลังใช้ดี 6–12 เดือนหรือไม่?
 A: มีโอกาส ถ้าประวัติชำระดีและผลประกอบการดีกว่าคาด → ขอรีวิวเงื่อนไข/รีไฟฯ
Q: ถ้ามีค่าธรรมเนียมหลายรายการ จะดูอย่างไร?
 A: รวมทุกค่าเป็น EIR เพื่อเทียบข้อเสนออย่างยุติธรรม
ดู “ดอกประกาศ” อย่างเดียว → แก้: เทียบ EIR ภายใต้พฤติกรรมเบิก–ใช้จริง
เอกสารไม่ครบ/ชื่อไม่ตรง → แก้: ตรวจเช็กล่วงหน้า ปิดช่องโหว่ก่อนยื่น
ใช้ทรัพย์เสี่ยงสูงชิ้นเดียว → แก้: ค้ำผสม กับทรัพย์เสี่ยงต่ำ
ไม่ทำประกันทรัพย์ → แก้: ทำประกันที่ครอบคลุม ลดความเสี่ยงรวม
ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจ — ประโยชน์/เคสใช้งานเด่น
วงเงินสูง — ปัจจัย LTV และเพดานต่อทรัพย์ (พร้อมตารางตัวอย่าง)
ดอกเบี้ยต่ำ — วิธีลดต้นทุนและตัวอย่างคำนวณเบื้องต้น
สินเชื่อเครื่องจักร อนุมัติง่าย — เอกสารเครื่องจักรและอายุทรัพย์