ผู้ประกอบการใหม่มัก “ขาดเครดิต–ยังไม่มีงบย้อนหลัง” จึงกังวลเรื่องกู้ วงเงินไม่ใช้หลักทรัพย์ก็ทำได้ ถ้าพิสูจน์ดีมานด์ แผนคืนเงิน และวินัยการเงินได้ชัดเจน
ทำไม “ผู้ประกอบการใหม่” จึงขอแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ได้
แม้จะยังไม่มีงบการเงินย้อนหลัง แต่ถ้าแสดง หลักฐานดีมานด์ (ความต้องการของลูกค้า), ความพร้อมดำเนินงาน, และ แผนคืนเงิน อย่างเป็นขั้นตอน ธนาคารหรือสถาบันการเงินก็พิจารณาได้ โดยมักดูเพิ่มเรื่อง เครดิตส่วนบุคคลของผู้ก่อตั้ง, เงินออม/เงินร่วมลงทุน, และ คุณภาพเอกสาร ที่สะท้อนความจริงของธุรกิจ
ยังไม่แน่ใจว่าพร้อมแค่ไหน? ลองทำ เช็กคุณสมบัติ แบบเร็ว เพื่อดูจุดแข็ง–ช่องว่างก่อนยื่นจริง
Term/Working Capital (ไม่ค้ำ) ขนาดเล็ก–กลาง: เหมาะกับค่าใช้จ่ายตั้งต้น/ลงทุนครั้งเดียว เช่น รีโนเวตร้าน ซื้ออุปกรณ์ ระบบ POS/คลังย่อย เปิดสาขาแรก ผ่อนรายเดือนตามงบ
วงเงินหมุนเวียน (OD/Revolving): ใช้ได้เมื่อเริ่มมีเงินเข้า–ออกสม่ำเสมอแล้ว (ช่วงแรกแนะนำให้เล็กและค่อยขยายตามยอดขายจริง เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยบาน)
ค้ำประกันสินเชื่อโดยรัฐ (เช่น ใช้ค้ำ บสย. เมื่อเข้าเงื่อนไข): ช่วยให้สถาบันการเงินรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แม้ทรัพย์ค้ำไม่พอ แต่ต้องมีตัวเลขและวินัยทางการเงินที่พิสูจน์ได้
3P = 3 อย่างที่แบงก์อยากเห็นชัด ๆ คิดแบบง่ายมาก: มีคนอยากซื้อ? ทำได้จริง? จ่ายคืนไหว?
P1: Proof of Demand (มีคนอยากซื้อจริงไหม)
หลักฐานที่นับ: ใบจอง/PO/LOA, ยอดสั่งบนแพลตฟอร์ม, ลูกค้าซื้อซ้ำ, โพล/พูดคุยลูกค้าที่แคปไว้, สัญญาว่าจ้างล่วงหน้า
P2: Proof of Production/Process (เราทำ–ส่งของได้จริงไหม)
หลักฐานที่นับ: สัญญาซัพพลายเออร์, ใบเสนอราคาอุปกรณ์, แผนทีม/ตารางกะงาน, ไทม์ไลน์เปิดร้าน/ส่งมอบ
P3: Proof of Payback (จ่ายคืนไหวไหม)
สิ่งที่ต้องมี: ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน, จุดคุ้มทุน, สมมติฐานรายได้–ต้นทุนที่อิงความจริง
เกณฑ์บ้าน ๆ ที่ใช้ได้ผล: DSCR ≥ 1.2
คิดยังไง: เงินสดคงเหลือต่อเดือน ÷ ค่างวดต่อเดือน
ตัวอย่าง: เหลือเงินสด 120,000 บาท/เดือน, ค่างวดรวม 90,000 → DSCR = 120,000 ÷ 90,000 = 1.33 (ผ่าน 1.2)
สรุป: ยื่นกู้ให้ผ่าน = เอาหลักฐาน 3 กองนี้ใส่แฟ้มให้ครบ ดูแล้ว “เชื่อได้” ตั้งแต่หน้าแรก
ดูภาพรวมตั้งแต่วงเงิน–เอกสาร–เงื่อนไขทั้งหมดใน คู่มือสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
จำสั้น ๆ: ลงทุน = Term / หมุนรายวัน = OD
Term / Working Capital (กู้ผ่อนรายเดือน)
ใช้กับ: รีโนเวต ซื้ออุปกรณ์ เปิดสาขา (ของที่ “อยู่กับเรา” หลายปี)
เคล็ดลับ: ตั้งอายุเงินกู้ ให้ใกล้อายุการใช้งานของของที่ซื้อ (ส่วนใหญ่ 1–5 ปี)
เป้าหมายรวม: ให้ DSCR หลังรวมทุกกู้ ≥ 1.2–1.3
OD / Revolving (วงเงินหมุนเวียน ดึง–โปะได้)
ใช้กับ: ค่าของสด/สต๊อก ค่าจ้างรายวัน ค่าน้ำไฟ ค่าขนส่ง ฯลฯ
ตั้งวงเงินแบบบ้าน ๆ:
เอา “ค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือน × 1 ถึง 1.5” แล้ว กันสำรอง 10–20%
ใช้จริงเฉลี่ย ไม่เกิน 50–70% ของเพดาน และพยายาม “ปิด OD” อย่างน้อยไตรมาสละครั้ง
ถ้าลังเลว่าจะเริ่มจาก Term หรือ OD ดี? เทียบข้อดี–ข้อควรระวังได้ที่ เปรียบเทียบสินเชื่อ SME ไม่ใช้หลักทรัพย์
A) ร้านกาแฟสาขาแรก (Dine-in + เดลิเวอรี)
ค่าเซ็ตอัพ 800,000 → Term 36–48 เดือน (ค่างวดอยู่ในกรอบ EBITDA ที่คาด)
ค่าเดินร้าน/สต๊อกวัตถุดิบเดือนแรก 180,000 → OD เริ่ม 200,000–250,000
หลักฐาน: ใบเสนอราคาอุปกรณ์/รีโนเวต, แผนคน, ยอดคาดการณ์จากโลเคชัน/เดลิเวอรี, รายงานทดลองขาย (ถ้ามี)
B) ค้าปลีกออนไลน์เริ่มจริงจัง
สต๊อกเปิดฤดูกาล 300,000 → ขอ Term เล็ก 200,000 + OD 150,000 สำหรับหมุนรับรอบโอนแพลตฟอร์ม
หลักฐาน: ยอดสั่งซื้อย้อนหลังจากแพลตฟอร์ม, อัตราตีกลับ/รีวิว, รอบโอนเงิน, สัดส่วนสินค้าขายดี
C) เอเจนซี่บริการ (รับงานรายเดือน/โปรเจกต์)
ลงทุนอุปกรณ์/ซอฟต์แวร์ 250,000 → Term 12–24 เดือน
ค่าเงินเดือน/ฟรีแลนซ์ 2 เดือนแรก 300,000 → OD 300,000–400,000
หลักฐาน: สัญญา Retainer/ใบเสนอราคา, ปฏิทินส่งงาน, สรุปเวลาทำงาน–กำลังคน
สรุป ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน (เช่า, เงินเดือน, ยูทิลิตี้, SaaS) + ผันแปรขั้นต่ำ
ตั้ง OD ≈ 1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน + กันสำรอง 10–20% (เพื่อคร่อมรอบรับเงินช่วงแรก)
ใช้ Term สำหรับค่า “ลงทุนครั้งเดียว” ที่คืนทุนเป็นงวด
รวมแล้วเทสต์ DSCR ≥ ~1.2 จากประมาณการเงินสด (ใช้สมมติฐานอนุรักษ์นิยม)
กำหนดกฎเหล็ก “ปิด OD อย่างน้อยไตรมาสละครั้ง” เพื่อโชว์วินัยเงินสด
สรุปธุรกิจ 1 หน้า (Executive Summary): ทำอะไร–ลูกค้าหลัก–ใช้เงินทำอะไร–คืนเงินอย่างไร–ตัวเลขสำคัญ (ยอดขายคาด/EBITDA/DSCR)
หลักฐานดีมานด์: Pre-order/LOA/PO, ภาพรวมยอดสั่งซื้อออนไลน์/ทราฟฟิก/Conversion
แผนดำเนินงาน: ใบเสนอราคาอุปกรณ์, สัญญาซัพพลายเออร์, ไทม์ไลน์เปิดร้าน/ส่งมอบ
งบประมาณ & ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน: สมมติฐานราคา–จำนวนลูกค้า–ต้นทุน–ฤดูกาล
สเตทเมนต์ส่วนบุคคล/กิจการ 6–12 เดือน (ช่วงเริ่มอาจใช้ร่วมกันได้)
โครงสร้างผู้ถือหุ้น/อำนาจกรรมการ และเอกสารส่วนบุคคลผู้ก่อตั้ง (เครดิต/ภาระหนี้)
ถ้าขายไม่ถึงเป้า 20–30% จะทำอย่างไร? (แผนลดค่าใช้จ่าย/โปรโมชัน/ขยายช่องทาง)
ลูกค้ากระจุกตัวไหม? ถ้าลูกค้าหลักยกเลิกจะมีแผนสำรองอะไร (แหล่งลีดใหม่/แคมเปญ/คู่ค้า)
ใช้เงินก้อนนี้อย่างไรให้ “เกิดเงินสดกลับมา” และใช้เวลานานแค่ไหน (ไทม์ไลน์ชัด ๆ)
แยกเงินส่วนตัวกับเงินกิจการหรือยัง (บัญชีธุรกิจ/บันทึกรายรับรายจ่าย/ใบกำกับภาษี)
สัปดาห์ 1: ทำสรุปธุรกิจ 1 หน้า + รวบหลักฐานดีมานด์ + ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน
สัปดาห์ 2: ขอใบเสนอราคา/สัญญาซัพพลายเออร์ + จัดแฟ้มเอกสารครบ (งบ/สเตทเมนต์/โครงสร้างบริษัท)
สัปดาห์ 3–4: ยื่น 2–3 สถาบันควบคู่ (ตั้ง Term + OD ตามสูตร) และตอบคำถาม Due Diligence
สัปดาห์ 5–8: อนุมัติ–เซ็นสัญญา–ทยอยเบิกตามแผน (ถ้าเป็นงานรีโนเวต/ติดตั้ง ขอ “แบ่งเบิกตามไมล์สโตน” ลดดอกช่วงแรก)
มี Executive Summary 1 หน้า ครบ 5 ข้อ (ทำอะไร–ลูกค้าหลัก–ใช้เงิน–คืนเงิน–ตัวเลขสำคัญ)
หลักฐานดีมานด์ชัด (Pre-order/LOA/PO/ยอดแพลตฟอร์ม)
ตั้ง Term (ลงทุน) + OD (หมุนเวียน) ตามสมมติฐานจริง และ DSCR ≥ ~1.2
สเตทเมนต์ 6–12 เดือน + เอกสารส่วนบุคคลผู้ก่อตั้งพร้อม
ถ้าทรัพย์ค้ำจำกัดแต่ตัวเลขเดินดี → พิจารณา ค้ำประกันโดยรัฐ (ตรวจคุณสมบัติ/ค่าธรรมเนียมก่อน)
ก่อนจัดแฟ้มจริง แนะนำดูรายการเอกสารครบถ้วนที่ เช็กลิสต์เอกสาร แล้วติ๊กตามลำดับ