สำหรับเจ้าของกิจการที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุนเพื่อหมุนเวียนหรือขยายธุรกิจ สินเชื่อธุรกิจแบบมีหลักประกันถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก ด้วยข้อได้เปรียบหลักสองประการคือ สามารถขอวงเงินได้สูงกว่าสินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันและได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว แต่ ควรใช้หลักทรัพย์ประเภทใดในการค้ำประกัน และแต่ละประเภทสามารถขอวงเงินสูงสุดได้เท่าไร สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหากท่านสนใจสินเชื่อ แบบ มี หลักทรัพย์ ค้ำประกัน
ที่ดินและบ้านเป็นหลักประกันยอดนิยมที่สถาบันการเงินให้ความเชื่อมั่นสูง เนื่องจากมีมูลค่าสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามเวลา
วงเงินสูงสุดที่ขอได้: ประมาณ 70%-90% ของราคาประเมิน
ตัวอย่าง: หากคุณมีที่ดินพร้อมบ้านมูลค่า 5 ล้านบาท คุณอาจขอสินเชื่อได้สูงถึง 4-4.5 ล้านบาท
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีที่ดินเปล่าหรืออาคารในครอบครอง และต้องการเงินลงทุนระยะยาว
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เป็นหลักประกันที่มีมูลค่าสูงและเหมาะสำหรับการขอสินเชื่อวงเงินใหญ่
วงเงินสูงสุด: 70%-90% ของราคาประเมิน เช่นเดียวกับที่ดิน
ข้อดี: เหมาะกับการใช้เป็นหลักประกันสำหรับขอสินเชื่อธุรกิจ SME หรือสินเชื่อขยายกิจการ
เหมาะสำหรับ: เจ้าของกิจการที่มีทรัพย์สินเชิงพาณิชย์และต้องการเงินทุนจำนวนมาก
ยานพาหนะสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันได้ แม้จะได้วงเงินน้อยกว่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีความคล่องตัวในการอนุมัติ
วงเงินสูงสุด: ประมาณ 50%-80% ของราคาประเมิน ณ วันที่ยื่นกู้ (รถใหม่ได้วงเงินสูงกว่ารถมือสอง)
ข้อสังเกต: วงเงินขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปีจดทะเบียน และสภาพรถ
เหมาะสำหรับ: ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ต้องการเงินด่วน และมีรถใช้งานในธุรกิจ
เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตสามารถนำมาเป็นหลักประกันได้ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจภาคการผลิต
วงเงินสูงสุด: ประมาณ 40%-70% ของมูลค่าประเมิน
หมายเหตุ: ต้องมีการประเมินมูลค่าโดยผู้เชี่ยวชาญ และมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจน
เหมาะสำหรับ: โรงงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนหรือซื้อวัตถุดิบ
สินทรัพย์ทางการเงินเป็นหลักประกันที่มีสภาพคล่องสูง และมักได้รับการอนุมัติวงเงินที่สูงเมื่อเทียบกับมูลค่าหลักประกัน
วงเงินสูงสุด: ประมาณ 90%-100% ของยอดเงินในบัญชี
ข้อดี: สินเชื่อประเภทนี้มักได้รับการอนุมัติเร็ว และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจ
เหมาะสำหรับ: เจ้าของกิจการที่มีเงินสดสำรองอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องการถอนออกมาใช้
กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีมูลค่าเงินสดสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันได้
วงเงินสูงสุด: ประมาณ 70%-90% ของมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์
เหมาะสำหรับ: ผู้ประกอบการที่ทำประกันชีวิตสะสมไว้เป็นเวลานาน และต้องการใช้เงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
สินเชื่อธุรกิจแบบมีหลักประกันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนในวงเงินสูงและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า โดยวงเงินสูงสุดที่จะได้รับขึ้นอยู่กับประเภทของหลักประกัน ซึ่งอสังหาริมทรัพย์มักให้วงเงินสูงสุดที่ 70%-90% ของมูลค่าประเมิน ในขณะที่สินทรัพย์ทางการเงินอาจได้รับวงเงินสูงถึง 90%-100%
การเลือกใช้หลักประกันที่เหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากสินเชื่อ และสามารถนำเงินทุนไปพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไป
หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อธุรกิจแบบมีหลักประกัน หรือต้องการปรึกษาเรื่องการเลือกหลักประกันที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เชิญเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและบริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ
#สินเชื่อธุรกิจ #สินเชื่อแบบมีหลักประกัน #เงินทุนธุรกิจ #SME #หลักทรัพย์ค้ำประกัน