หน้าหลัก > ความรู้ > แหล่งเงินทุน > เปรียบเทียบสินเชื่อออนไลน์ถูกกฎหมายจากธนาคารและ Non-Bank
หน้าหลัก > ความรู้ > แหล่งเงินทุน > เปรียบเทียบสินเชื่อออนไลน์ถูกกฎหมายจากธนาคารและ Non-Bank
ปี 2568 ช่องทาง แหล่งเงินทุน ออนไลน์มีให้เลือกทั้งจากธนาคารและ Non-Bank จุดร่วมคือความโปร่งใสและสมัครสะดวก แต่จุดต่างคือเกณฑ์พิจารณา ความยืดหยุ่น และเวลารู้ผล บทความนี้ชี้ข้อดี–ข้อเสีย เงื่อนไขเอกสาร และสูตรเลือกให้ตรงโจทย์ เงินทุนหมุนเวียน หรือการลงทุนของคุณ
• ไปที่ เช็กคุณสมบัติ | เช็คลิสเอกสาร | • อ่านหน้าลูก: ทุนหมุนเวียนสำหรับ SME | ออนไลน์ ธนาคาร vs Non-Bank: ใครเหมาะกับใคร?
สิ่งที่เหมือนกัน
อยู่ภายใต้การกำกับดูแล มีสัญญามาตรฐาน โปร่งใสเรื่องอัตราดอก ค่าธรรมเนียม และวิธีคิดต้นทุน
รองรับ e-KYC (ยืนยันตัวตนดิจิทัล) และการอัปโหลดเอกสารออนไลน์
ใช้ข้อมูลจริงมากขึ้น (statement, รายงานยอดขายดิจิทัล) เพื่อตัดสินใจไวขึ้น
สิ่งที่ต่างกันโดยทั่วไป
ธนาคาร: เงื่อนไขมาตรฐานสูงกว่า เอกสารต้อง “สะอาดและครบ” จุดเด่นคือดอกโดยรวมมักต่ำกว่า ผลิตภัณฑ์หลากหลาย (OD/Factoring/Term/HP) และมี “วงจรบริการหลังอนุมัติ” ครบ
Non-Bank: ขั้นตอนคล่องตัวกว่าในหลายกรณี ระยะเวลารู้ผลไวสำหรับวงเงินเล็ก–กลาง เกณฑ์ยืดหยุ่นกับธุรกิจที่มีข้อมูลดิจิทัลเด่น ๆ แต่ดอกหรือค่าธรรมเนียมอาจสูงกว่าธนาคารเล็กน้อยตามความเสี่ยง
หลักคิด: ถ้า “เอกสารแข็งแรง–กระแสเงินสดสม่ำเสมอ” มักคุ้มกับธนาคาร ถ้า “ต้องการความเร็ว–วงเงินเล็ก–กลาง–ข้อมูลดิจิทัลชัด” Non-Bank อาจเหมาะกว่า
ธนาคาร (ออนไลน์ในระบบ)
เด่น: ต้นทุนรวมจริงโดยเฉลี่ยต่ำกว่า, ผลิตภัณฑ์ครบ (รวม เงินทุนหมุนเวียน แบบ OD/Factoring และสินเชื่อเพื่อการลงทุน), มีสาขา–ที่ปรึกษาเสริม
ควรระวัง: ใช้เวลาเตรียมเอกสารมากกว่าเล็กน้อย ต้อง “สะอาด–สอดคล้อง” กันทุกไฟล์ วงเงินใหญ่มีรอบอนุมัติเพิ่ม
Non-Bank (ออนไลน์ในระบบ)
เด่น: สมัคร–รู้ผลไวกว่าในหลายกรณี, ยืดหยุ่นกับผู้ค้าบนแพลตฟอร์ม (ใช้ยอดขาย/รายงาน e-payment เป็นหลักฐาน), ขั้นตอนตรงไปตรงมา
ควรระวัง: อัตราดอก/ค่าธรรมเนียมอาจสูงกว่าธนาคาร ผลิตภัณฑ์บางประเภทไม่มีเทียบเท่า (เช่น Factoring เฉพาะลูกค้ากลุ่ม) ต้องอ่านเงื่อนไขต่ออายุวงเงินให้ครบ
ไม่ว่าทางไหน ให้โฟกัส “ต้นทุนรวมจริง” ไม่ใช่แค่ดอกต่อปี ดูวิธีคิดที่ สินเชื่อออนไลน์ถูกกฎหมาย
ร่วมกันทั้งสองฝั่ง
Statement บัญชีธุรกิจ 6–12 เดือน ที่เงินเข้า–ออกสม่ำเสมอ
เอกสารภาษี/หลักฐานรายได้ (ใบกำกับ/สัญญา/PO/ใบสั่งซื้อ)
รายการลูกหนี้–เจ้าหนี้ พร้อมรอบรับ–จ่าย เพื่อเห็นช่องว่างเงินสด
สรุป 1 หน้า ว่าใช้เงินทำอะไร ต้องถือเงินกี่วัน และคืนจาก “วันเงินเข้า” ไหน
เฉพาะที่มักช่วยฝั่ง Non-Bank
Alt-data: รายงานยอดขายจากมาร์เก็ตเพลส/ฟู้ดเดลิเวอรี/เพย์เมนต์เกตเวย์, สลิป e-payment ที่บ่งชี้รูปแบบรายได้ซ้ำ ๆ
พฤติกรรมการรับชำระดิจิทัล: ช่องทางที่ดึงข้อมูลอัตโนมัติได้ มักทำให้อนุมัติไวขึ้น
ตรวจความครบถ้วนก่อนยื่นได้ที่ เเช็คลิสเอกสาร และประเมินเบื้องต้นที่ เช็กคุณสมบัติ
โจทย์ “หมุนเวียน” (ระยะสั้น 7–60 วัน)
เริ่มที่ วงเงินหมุนเวียน (OD): ดึงเท่าที่จำเป็นและ โปะทันที เมื่อเงินเข้า → ต้นทุนจริงต่ำ
มีบิลจากลูกค้าบริษัทเครดิตดี → ใช้ Factoring เร่งเงินสดมาโปะ OD
ฝั่งธนาคารมี OD/Factoring ครบถ้วน ฟีเจอร์ออนไลน์ทำให้รู้ผลไวขึ้น หากเอกสารสะอาด
ฝั่ง Non-Bank มักมี “วงเงินธุรกิจดิจิทัล” อิงยอดขาย แต่อ่านค่าธรรมเนียมและรอบตัดให้ละเอียด
โจทย์ “การลงทุน” (เครื่องจักร/อุปกรณ์/ขยายสาขา)
ใช้ Term/เช่าซื้อ (HP) งวดคงที่ วางแผนครบ ไม่ไปเบียด เงินทุนหมุนเวียน
ธนาคารมักมีตัวเลือกและอัตราที่คาดการณ์ได้ดี ส่วน Non-Bank บางรายมีโปรแกรมเฉพาะอุตสาหกรรมที่ยืดหยุ่นเอกสาร
ดูแนวทางหมุนเวียนแบบเป็นระบบได้ที่ ทุนหมุนเวียนสำหรับ SME
SLA สมัคร–อนุมัติ ฝั่ง Non-Bank มักเร็วกว่าในวงเงินเล็ก–กลาง หาก Alt-data แน่น ส่วนธนาคารอาจใช้เวลามากกว่าเล็กน้อยแต่ชดเชยด้วยต้นทุนโดยรวมที่ต่ำกว่า
ต้นทุนโอกาส: ถ้าเงินเข้าช้าจน “พลาดยอดขาย/หยุดสายการผลิต” อาจเสียกำไรมากกว่าค่าธรรมเนียม Factoring หรือดอก OD ระยะสั้น
วิธีคิดแบบเร็ว: ประเมินกำไรที่รักษาไว้เมื่อได้เงิน “ทันเวลา” เทียบกับค่าธรรมเนียม–ดอกของทางเลือกนั้น ๆ แล้วเลือกที่ “กำไรสุทธิ” ดีกว่า
หลักการ: เงินที่ “เข้าทัน” และ “คืนได้ตามแผน” คือเงินที่คุ้มที่สุด ไม่ใช่ดอกต่ำที่สุดเสมอไป
การยินยอมข้อมูล (Consent): ยินยอมเท่าที่จำเป็นต่อการพิจารณาเท่านั้น เก็บสำเนานโยบายความเป็นส่วนตัวทุกครั้ง
เงื่อนไขการหักบัญชีอัตโนมัติ: ตรวจรอบหัก การยุติ/ต่ออายุวงเงิน และค่าปรับผิดนัด
ค่าธรรมเนียมทั้งหมด: ค่าจัดการ รายปี ค่าเร่งพิจารณา ค่าทำสัญญา ค่าโอน—ให้รวมเข้า “ต้นทุนรวมจริง”
Red Flags ร่วมกันทั้งสองฝั่ง: ขอ OTP/รหัสผ่านธนาคาร, เรียกค่าดำเนินการล่วงหน้าเข้าบัญชีบุคคล, ไม่ให้สำเนาสัญญา—ให้หยุดทันที
รายละเอียดวิธีดูต้นทุนรวมจริงอ่านต่อที่ สินเชื่อออนไลน์ถูกกฎหมาย
A) ร้านอาหารที่รับชำระผ่าน e-payment เป็นหลัก ต้องเติมสต็อก 10–14 วัน
ถ้า statement สม่ำเสมอและมี วันเงินเข้า ชัด → OD ธนาคารออนไลน์ คุ้มเพราะดอกคิดตามวันจริง
ถ้าอยากได้ ‘คำตอบด่วน’ และมีรายงานยอดขายดิจิทัลเป๊ะ → วงเงินธุรกิจดิจิทัล Non-Bank ก็เหมาะ แต่คิดค่าธรรมเนียมรวมให้ครบ
B) ผู้ผลิตรับงาน 45 วัน ต้องซื้อวัตถุดิบ–จ่ายค่าแรงล่วงหน้า
OD ธนาคาร + Factoring ใบบิลลูกค้าบริษัท ชนะเรื่องต้นทุนจริง เพราะ “วันถือ OD” สั้นลงและได้เงินจาก Factoring มาโปะ
Non-Bank เหมาะเป็นแผนสำรองหากต้องการอนุมัติไวระหว่างรอรอบธนาคาร
C) ร้านค้าออนไลน์บนมาร์เก็ตเพลส ยอดโตเร็ว ต้องการวงเงินหมุนต่อเนื่อง
Non-Bank ดิจิทัลไลน์ ที่อิงยอดขาย/รอบโอน อนุมัติไวและหมุนคล่อง
เมื่อธุรกิจนิ่งและข้อมูลแข็งแรงขึ้น ลองตั้ง OD ธนาคาร เพื่อกดต้นทุนรวมระยะยาว
D) ลงทุนเครื่องจักร/รถขนส่ง
Term/HP ธนาคาร งวดคงที่ โปร่งใส เหมาะกับแผนยาว ไม่ไปเบียดเงินหมุน
Non-Bank บางรายมีโปรแกรมเฉพาะอุตสาหกรรม (ยืดหยุ่นเอกสาร) ควรเทียบต้นทุนรวมก่อนตัดสินใจ
ระบุโจทย์และเส้นเวลาเงินเข้า: หมุนเวียนกี่วัน/ลงทุนอะไร/คืนจากกระแสไหน
เตรียม “แพ็กดิจิทัล” เอกสารเดียว: ลดการตามเอกสารซ้ำ (ดู เช็กลิสต์เอกสาร)
ยื่น 1 ช่องทางหลัก + 1 สำรอง: ธนาคารเป็นหลัก/Non-Bank เป็นสำรอง (หรือกลับกันตามโจทย์เวลา)
สำหรับหมุนเวียน: ใช้ OD เท่าที่จำเป็น + ตั้งวินัย “วันเงินเข้า = วันโปะ” พิจารณา Factoring เฉพาะบิลที่คุ้ม
สำหรับลงทุน: ใช้ Term/HP เท่านั้น แยกเงินลงทุนออกจาก เงินทุนหมุนเวียน เสมอ
ประเมินหลังใช้ 1–2 รอบ: เทียบ “ต้นทุนรวมจริง” กับ “ยอดขายที่รักษาไว้” แล้วปรับสัดส่วนธนาคาร/Non-Bank ให้เหมาะ
ถาม: ธนาคารดอกถูกกว่าเสมอไหม?
ตอบ: โดยเฉลี่ยใช่ แต่ถ้าเวลาคือปัจจัยหลักและเอกสารคุณโดดเด่นด้านดิจิทัล Non-Bank ที่อนุมัติไวอาจ “คุ้มกว่า” ในภาพรวมกำไร
ถาม: Non-Bank น่าเชื่อถือแค่ไหน?
ตอบ: เลือกที่อยู่ภายใต้การกำกับ มีสัญญามาตรฐาน โปร่งใสเรื่องต้นทุน และไม่ขอข้อมูลเกินจำเป็น—หลักการเดียวกับธนาคาร
ถาม: OD หรือ Factoring อะไรดีกว่า?
ตอบ: ถ้ามี วันเงินเข้า ชัดและวินัยโปะเข้ม OD คุ้มกว่าเพราะคิดตามวันถือจริง แต่ถ้าลูกค้าบริษัทจ่ายช้าและมีบิลชัด Factoring เร่งเงินสดได้ทันที
ถาม: ใช้แพลตฟอร์มขายของช่วยขอกู้ฝั่งธนาคารได้ไหม?
ตอบ: ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่รองรับ Open Banking/การแนบรายงานยอดขาย
เมื่อเทียบธนาคาร vs Non-Bank ในช่องทางออนไลน์ จุดชี้ขาดไม่ใช่แค่ดอกต่อปี แต่คือ “ความสอดคล้องกับโจทย์–เส้นเวลาเงินเข้า–เอกสารที่คุณมี” หากเป็น หมุนเวียน ให้ใช้ OD ด้วยวินัย วันเงินเข้า = วันโปะ และพิจารณา Factoring บิลลูกค้าบริษัทที่คุ้ม หากเป็น การลงทุน ให้ใช้ Term/HP เพื่อไม่ให้ เงินทุนหมุนเวียน ตึง จากนั้นประเมินต้นทุนรวมจริงหลังใช้ 1–2 รอบ แล้วค่อยปรับสัดส่วนระหว่างธนาคารกับ Non-Bank ให้ลงตัวที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
• กลับไปหน้าแม่ แหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจ | เช็กคุณสมบัติ | เช็คลิสเอกสาร