5 พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ขอสินเชื่อออนไลน์ไม่ผ่าน

1. ไม่ตรวจสอบเครดิตบูโรล่วงหน้า

หนึ่งในพฤติกรรมที่เสี่ยงที่สุดคือการยื่นขอ สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก โดยไม่ได้ตรวจสอบ เครดิตบูโร ของตนเองก่อน ในปัจจุบัน สถาบันการเงินทุกรายจะตรวจสอบข้อมูลเครดิตก่อนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หากพบว่ามีประวัติชำระเงินล่าช้า หรือมีสถานะค้างชำระ โอกาสได้รับการอนุมัติจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

คำแนะนำในฐานะที่ปรึกษา:
ควรขอตรวจเครดิตบูโรล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนการยื่นขอสินเชื่อ เพื่อให้มีเวลาในการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือปรับปรุงพฤติกรรมทางการเงิน เช่น ปิดหนี้ค้างชำระ หรือลดภาระหนี้รายเดือน

2. ยื่นขอสินเชื่อหลายแห่งในเวลาใกล้กัน

การยื่นขอสินเชื่อกับหลายสถาบันการเงินพร้อมกันโดยหวังว่า "อย่างน้อยต้องผ่านสักที่" กลับเป็นสิ่งที่เสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธมากขึ้น เนื่องจากระบบจะบันทึกการขอตรวจเครดิตทุกครั้ง และเจ้าหน้าที่สินเชื่อสามารถเห็นข้อมูลนี้ได้

ผลเสียในมุมมองของสถาบันการเงิน คือมองว่าผู้ขอกู้มีภาวะความเสี่ยงสูง และกำลังดิ้นรนหาแหล่งเงินทุน ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ

ข้อแนะนำทางกลยุทธ์:
เลือกสมัครกับสถาบันการเงินที่เหมาะกับธุรกิจของตนที่สุด โดยพิจารณาจากเงื่อนไข, ประเภทสินเชื่อ, และวงเงินที่สอดคล้องกับแผนธุรกิจ เช่น หากเป็นธุรกิจเริ่มต้น ควรเลือก สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายใหม่ ที่เน้นสนับสนุนผู้ประกอบการหน้าใหม่โดยเฉพาะ

3. ขาดแผนธุรกิจและแผนการเงินที่ชัดเจน

แม้จะมีความตั้งใจจริงในการนำเงินไปลงทุน แต่หากไม่มี Business Plan หรือแผนการใช้เงินที่มีรายละเอียด เช่น จะใช้เงินลงทุนอะไร ก่อให้เกิดรายได้อย่างไร และจะคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจากแหล่งใด ก็ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญ

โดยเฉพาะกับ สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก ผู้ปล่อยสินเชื่อต้องการเห็นความเป็นไปได้ในการคืนหนี้จากกระแสเงินสด ไม่ใช่จากความหวังลมๆ แล้งๆ

คำแนะนำจากที่ปรึกษา:
จัดทำแผนธุรกิจอย่างมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาซับซ้อน แต่อย่างน้อยควรแสดงรายรับ-รายจ่าย คาดการณ์กำไร และวิธีการชำระหนี้อย่างมีเหตุผล รวมถึงระบุว่าการใช้ เงินกู้ SME จะช่วยสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างไร

4. ใช้บัญชีธนาคารที่ไม่มีความเคลื่อนไหว

สถาบันการเงินพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จาก “พฤติกรรมทางการเงินจริง” โดยอ้างอิงจากบัญชีธนาคาร หากบัญชีของกิจการไม่มีความเคลื่อนไหว หรือมีเงินเข้า-ออกแบบไม่สม่ำเสมอ สะท้อนถึงความไม่มั่นคงทางการเงิน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การขอกู้ไม่ผ่าน

แนวทางปฏิบัติที่แนะนำ:

• ใช้บัญชีธุรกิจหลักเพียงบัญชีเดียว

• รักษาความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด

• อย่ารวมเงินส่วนตัวกับเงินธุรกิจ
  สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมี “หลักฐาน” ที่น่าเชื่อถือในการยื่นขอ สินเชื่อ SME หรือ สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก ในอนาคต

5. ไม่อ่านเงื่อนไขก่อนยืนยันการสมัคร

ผู้ขอกู้จำนวนมากมักจะละเลยการอ่านรายละเอียดของสัญญาเงินกู้ โดยเฉพาะเมื่อทำผ่านระบบออนไลน์ แม้จะสะดวกและรวดเร็ว แต่การไม่ใส่ใจในเงื่อนไข อาทิ อัตราดอกเบี้ย, ค่าธรรมเนียมแฝง, หรือระยะเวลาการชำระหนี้ อาจทำให้เกิดปัญหาด้านหนี้สินในภายหลัง และส่งผลกระทบต่อเครดิตของธุรกิจ

คำแนะนำสำคัญ:
อ่านทุกเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนกดยืนยัน หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายใหม่ หรือเงื่อนไขพิเศษของสินเชื่อ SME ควรสอบถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อทันที และขอสำเนาสัญญาก่อนตัดสินใจยืนยัน

สรุป: เตรียมตัวอย่างไรให้สินเชื่อผ่านในปี 2568

ในปี 2568 แนวโน้มของ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก ได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การได้รับอนุมัติสินเชื่อไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชค แต่ขึ้นอยู่กับ "การเตรียมตัว"

Check List เบื้องต้นที่ควรมีหากต้องการขอสินเชื่อให้ผ่านง่าย:

• ตรวจเครดิตบูโรก่อนสมัคร

• มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน

• รักษาสภาพคล่องในบัญชีธุรกิจ

• สมัครสินเชื่ออย่างมีกลยุทธ์ ไม่สมัครสุ่มสี่สุ่มห้า

• อ่านเงื่อนไขอย่างละเอียดทุกครั้งก่อนกดยืนยัน

หากคุณกำลังมองหาคำปรึกษาด้าน สินเชื่อธุรกิจ ที่เหมาะสมกับประเภทและขนาดกิจการของคุณ เว็บไซต์ของเราพร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทีมที่ปรึกษาของเรามีประสบการณ์ตรงในการช่วยเจ้าของกิจการเตรียมเอกสาร วิเคราะห์แผนการเงิน และแนะนำผลิตภัณฑ์ สินเชื่อ SME ที่เหมาะสมในสถานการณ์จริง

เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อขอคำปรึกษาด้านสินเชื่อวันนี้ — และให้เราช่วยผลักดันธุรกิจของคุณให้เติบโตได้อย่างมั่นคงในปี 2568

#สินเชื่อSME #เงินกู้SME #สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก #ขอสินเชื่อไม่ผ่าน #สินเชื่อเพื่อธุรกิจรายใหม่ #เครดิตบูโร2568 #สินเชื่ออนุมัติง่าย #สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก2568 #สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก