ในปี 2568 ที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวแบบมีแรงต้าน ธุรกิจ SME จำนวนไม่น้อยยังต้องการเงินทุนเพื่อประคองกิจการหรือเร่งขยายโอกาส ในสถานการณ์แบบนี้ “การเข้าถึงสินเชื่อ SME” กลายเป็นทางเลือกสำคัญ ทั้ง เงินกู้ SME, สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก, หรือ สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก
แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้ หรือรู้แต่ยังไม่จัดการให้ดีพอ ก็คือ “ระบบบัญชีบริษัท” ที่ดูเหมือนเรื่องเบา ๆ แต่กลายเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายว่า “ขอสินเชื่อผ่านหรือไม่ผ่าน”
ในฐานะที่ปรึกษาด้านสินเชื่อธุรกิจ ผมขอยืนยันว่า: ไม่มีหลักฐานทางบัญชี = ไม่มีความน่าเชื่อถือ ต่อสายตาสถาบันการเงิน ถึงแม้ธุรกิจจะมีกำไรมากแค่ไหนก็ตาม
แม้บางธุรกิจจะมียอดขายหลักแสนต่อเดือน แต่หากการจัดการบัญชีไม่โปร่งใส หรือไม่มีหลักฐานแสดงเงินหมุนเวียนที่ชัดเจน ก็มีโอกาสสูงมากที่จะถูกปฏิเสธสินเชื่อ
ตัวอย่างเช่น บัญชีบริษัทมีแค่ยอดโอนเข้าออกจากบัญชีส่วนตัวของเจ้าของธุรกิจ ไม่มีข้อมูลว่ารับเงินจากลูกค้าไหน หรือจ่ายค่าอะไร
มุมมองที่ปรึกษา: ธนาคารไม่สามารถประเมินกระแสเงินสดหรือศักยภาพการใช้หนี้จากข้อมูลที่ว่างเปล่าแบบนี้ได้เลย
เถ้าแก่หลายคนยังใช้บัญชีส่วนตัวรับเงินจากลูกค้า แล้วทยอยโอนกลับเข้าบริษัท — หรือไม่โอนเลย แบบนี้ไม่สามารถตรวจสอบรายได้ธุรกิจจริงได้
โดยไม่มีระเบียบ เช่น เบิกใช้ส่วนตัวจากบัญชีบริษัทโดยไม่ระบุว่าเป็นเงินเดือนหรือปันผล ลักษณะนี้ดูน่าสงสัยในมุมของฝ่ายสินเชื่อ
เพื่อให้คุณเข้าถึง สินเชื่อธุรกิจ SME ได้ง่ายขึ้นในปีนี้ มาดูแนวทางจัดการบัญชีแบบมืออาชีพ
เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัทเพื่อรับ‑จ่ายทุกธุรกรรม
ผู้ประกอบการควรรับเงินเดือน หรือปันผล แบบมีระบบ ไม่ใช่หยิบเงินบริษัทใช้ตามอำเภอใจ
หลีกเลี่ยงการรับเงินสดล้วน เพราะตรวจสอบยาก ไม่มีร่องรอย
ทุกยอดรับ-จ่าย ควรมีหลักฐาน เช่น ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี หรือสัญญา
ใช้ระบบ e-Payment หรือโอนผ่านแอปธนาคาร จะมีข้อมูลรายการอัตโนมัติ
ถ้าต้องรับเงินสด ก็ควรลงสมุดรับเงิน หรือใช้โปรแกรมบัญชีช่วย
เช่น FlowAccount, PEAK,หรือบัญชีธุรกิจของธนาคารที่มีฟีเจอร์อัตโนมัติ
เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้มีงบการเงินพร้อมใช้งานและเตรียม Statement ได้ทันที
แสดงให้เห็นว่ามีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
แม้เป็นธุรกิจเล็ก ก็สามารถขอกู้ในวงเงินเริ่มต้นได้ หากระบบบัญชีดี
ถ้าเพิ่งเปิดกิจการยังไม่ถึง 1 ปี อาจยังไม่มีงบการเงิน แต่ขอให้มี รายการเดินบัญชี และ หลักฐานการค้าขาย อย่างครบถ้วน
เริ่มใช้ระบบบัญชีตั้งแต่วันแรก เช่น แยกบัญชี รับเงินโอน มีบิลรับ มีรายจ่ายชัดเจน
ทำ สัญญากับลูกค้า และเก็บใบสั่งซื้อ (PO) ไว้ ถ้าอนาคตจะใช้ขอ สินเชื่อใบแจ้งหนี้(Factoring) เพราะแม้จะไม่มีงบปีล่าสุด แต่ถ้ามีหลักฐานกระแสเงินสดจริง สถาบันการเงินบางแห่งก็อนุมัติสินเชื่อให้ได้
ปี 2568 เป็นอีกปีที่ภาครัฐและสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์สนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กหลากหลาย เช่น
สินเชื่อ SME D Bank (Smile Biz): ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำ วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 6.25%
สินเชื่อ Krungthai Soft Loan Boost Up: วงเงินถึง 40 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 3.5%
สินเชื่อ “มณีทันใจ” จาก SCB: สำหรับร้านค้าและผู้ค้าออนไลน์ วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ผ่านแอป
ทุกสินเชื่อมีข้อดี แต่อย่างที่รู้กัน… “เอกสารบัญชี” คือด่านแรกที่ต้องผ่านก่อนเข้าถึงโอกาสเหล่านี้
ในปี 2568 ที่หลายธนาคารแข่งขันกันปล่อย สินเชื่อ SME อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เงินกู้ SME, สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก, หรือ สินเชื่อเพื่อการลงทุนขนาดเล็ก — สิ่งที่จะทำให้คุณได้ “วงเงินมาก” และ “ดอกเบี้ยต่ำ” ไม่ใช่แค่โปรแกรมสินเชื่อ แต่คือ “ระบบบัญชีที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ”
หากคุณกำลังวางแผนขอสินเชื่อในปีนี้ อย่ารอให้ถูกปฏิเสธก่อนค่อยย้อนกลับมาแก้เรื่องบัญชี
เริ่มจัดการตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าเริ่มใหม่ตอนถูกธนาคารปฏิเสธ
หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการวางระบบบัญชีให้พร้อมสำหรับการขอสินเชื่อ ผมยินดีให้คำปรึกษาแบบเข้าใจง่าย และช่วยประเมินความพร้อมของธุรกิจคุณก่อนยื่นจริงครับ