ธุรกิจบริการต้องการเงินหมุนและขยายทีมโดยไม่ผูกทรัพย์ค้ำ? บทความนี้สรุปวงเงินไม่ใช้หลักทรัพย์ เกณฑ์อนุมัติ เอกสารเฉพาะ และวิธีใช้ บสย. ให้คุ้มในปี 2568.
กิจการบริการพึ่งพาทีมงาน เวลา และสัญญาว่าจ้าง มากกว่าทรัพย์สินประเภทที่ดินหรือเครื่องจักร จึงมักขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ช่วยให้เข้าถึงสภาพคล่องได้เร็วขึ้น โดยธนาคารจะพิจารณาคุณภาพรายได้ ความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด วินัยเครดิต และความสามารถชำระหนี้เป็นสำคัญ ปี 2568 ภาพรวมของระบบธนาคารไทยยังเข้มงวดสินเชื่อภาค SME มากกว่าลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการที่งบการเงินแข็งแรงและมีแผนใช้เงินที่วัดผลได้จึงยังมีโอกาสได้เงื่อนไขแข่งขันได้.
วงเงินหมุนเวียน (OD/Revolving): ใช้จ่ายค่าแรง ฟรีแลนซ์ ซอฟต์แวร์ และค่าใช้จ่ายประจำระหว่างรอเก็บเงินลูกค้า ดึง–โปะตามรอบรับจ่าย ช่วยลดดอกเบี้ยส่วนเกินเมื่อมีวินัยการใช้วงเงิน
Working Capital / Term Loan (ไม่ค้ำ): เหมาะกับการขยายทีม เปิดสาขา หรือปรับระบบงาน โดยผูกแผนชำระคืนกับรายได้จริงจาก Retainer หรือ Milestone ของโครงการ
Multi-banking: แบ่งวงเงินกับ 2–3 สถาบัน ลดความเสี่ยงพึ่งแบงก์เดียว และเพิ่มอำนาจต่อรองเงื่อนไข
ค้ำประกันโดย บสย. (PGS 11): เหมาะเมื่อรายได้เดินสม่ำเสมอแต่หลักทรัพย์ค้ำมีจำกัด เพิ่มโอกาสอนุมัติและอาจช่วยให้ได้วงเงินสูงขึ้นตามกรอบโครงการที่ประกาศ
ปัญหาที่พบบ่อย: รายได้แบบ Retainer/รายเดือนหรือเป็นโครงการ เงินเข้าเป็นงวด ขณะที่ค่าแรงและค่า SaaS ต้องจ่ายต่อเนื่อง บางช่วงมีดีมานด์พีค
ทางเลือกที่ควรใช้:
รายได้ รายเดือน/Retainer → ตั้ง OD เท่ากับค่าใช้จ่ายคงที่ราว 1–1.5 รอบบิล
รายได้ แบบโครงการ (Milestone) → ใช้ Working Capital/Term ผูกแผนชำระคืนกับกำหนดรับเงิน
มีดีลใหญ่รอปิดหลายเดือน → ตั้ง OD + Buffer 10–20% เผื่อดีเลย์
การใช้งานที่ลงตัว: หมุนเวียนใช้ OD ลงทุนระบบหรือเปิดสาขาใช้ Term รวมวงเงินทั้งชุดไม่ควรเกินเงินสดสุทธิราว 9–12 เดือน และเผื่อระยะปลอดภัยสำหรับเงื่อนไขค้ำสัญญาไว้เสมอ
สัญญาว่าจ้าง/PO/ใบเสนอราคาที่ลูกค้าอนุมัติ (ถ้าเป็น Retainer แนบสัญญาต่ออายุและสรุปรายได้ย้อนหลัง)
ตารางวางบิล (Billing Schedule) + ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จย้อนหลัง 6–12 เดือน เพื่อยืนยันกระแสเงินสดเข้า
งบการเงิน 2–3 ปี + งบระหว่างกาล, สเตทเมนต์ 6–12 เดือน, Aging ลูกหนี้/เจ้าหนี้, โครงสร้างผู้ถือหุ้นและอำนาจกรรมการ
ประมาณการกระแสเงินสด 12–24 เดือน ผูกกับแผนใช้เงิน (เพิ่มทีม เปิดสาขา ลงทุนระบบ)
หากใช้ ค้ำประกัน บสย. เตรียมชุดเอกสารตามรายการของโครงการที่สมัคร
รายได้ต่อเนื่องและกระจายตัวดี งบการเงินโปร่งใส กำไรขั้นต้นและกระแสเงินสดสม่ำเสมอ วินัยเครดิตของบริษัทและผู้บริหารอยู่ในเกณฑ์ดี และมีเงื่อนไขค้ำสัญญา (เช่น การรักษาอัตราความสามารถชำระหนี้) ที่ทำได้จริงตามธุรกิจ
คำนวณวงเงินให้พอดีกับ “รอบบริการ” (แนวทางย่อ 5 ขั้น)
วาดแผน รับ–จ่าย 6–12 เดือน (Retainer/โครงการ/ฤดูกาล)
คำนวณค่าใช้จ่ายคงที่และผันแปรต่อเดือน (เงินเดือน ฟรีแลนซ์ SaaS สตูดิโอ/อุปกรณ์)
ตั้ง OD = 1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่เฉลี่ย/เดือน + Buffer 10–20% ช่วงพีค
ใช้ Term/Working Capital เฉพาะรายการลงทุนที่คืนทุนเป็นงวด
เผื่อระยะปลอดภัยสำหรับเงื่อนไขค้ำสัญญาประมาณ 10–15% เพื่อลดความเสี่ยงผิดข้อกำหนดโดยไม่ตั้งใจ
ใช้ บสย. ให้คุ้ม
สำหรับกิจการบริการที่บัญชีเดินดีและฐานลูกค้าชัด การใช้ ค้ำประกัน บสย. (PGS 11) ช่วยเพิ่มความพร้อมในการอนุมัติและอาจช่วยให้ได้วงเงินที่เหมาะสมขึ้น ทั้งนี้ควรตรวจเพดานการค้ำ ค่าธรรมเนียม และคุณสมบัติล่าสุดจากประกาศทางการก่อนยื่นทุกครั้ง.
เช็กลิสต์ย่อก่อนยื่น
สัญญาว่าจ้าง/Retainer | สเตทเมนต์ 6–12 เดือน | งบล่าสุด + ระหว่างกาล | ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน | แผนใช้เงินที่วัดผลได้