อัปเดตปี 2568—โครงสินเชื่อเพื่อการส่งออกแบบ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ สำหรับ SME ที่มีออเดอร์ต่างประเทศจริง เน้นใช้เอกสารการค้า–กระแสเงินสด–โปรไฟล์ผู้ซื้อ เป็นตัวพิสูจน์เครดิต พร้อมเช็กลิสต์อนุมัติไวและตัวอย่างโครงดีล
เช็กคุณสมบัติ | เช็กลิสต์เอกสาร
ไปหน้าแม่ สินเชื่อเพื่อการส่งออก
ผู้ส่งออกที่ ไม่มีทรัพย์ค้ำ หรือไม่ต้องการล็อกทรัพย์ถาวร
ธุรกิจที่มี PO/PI/สัญญาซื้อขายจริง และมีประวัติรับ–จ่ายผ่านบัญชีชัดเจน
มี ผู้ซื้อชัดเจน (นิติบุคคลต่างประเทศ) พร้อมเครดิตรีพอร์ต/หลักฐานการค้าพื้นฐาน
ต้องการเงินหมุนเพื่อ ผลิต–ส่งมอบ–รอเงินเข้า แต่ไม่อยากใช้ OD ค้างยาว
Pre-shipment Unsecured (Packing Credit แบบไม่ค้ำ)
ใช้วงเงินระยะสั้นเพื่อจัดซื้อวัตถุดิบ/ผลิต/แพ็ก ก่อนส่งมอบ พิจารณาจาก PO/PI ที่ตรวจสอบได้ + ประวัติธุรกรรมของผู้ขาย
Post-shipment Unsecured (Invoice / LC Discounting แบบไม่ค้ำ)
นำ Invoice/LC หลังส่งมอบมาแปลงเป็นเงินสด โดยยึดเอกสารการค้าและเครดิตของผู้ซื้อเป็นหลัก
Export Working Capital (ระยะสั้นไม่ค้ำ)
วงเงินหมุนก่อน–ระหว่าง–หลังส่งมอบ ใช้–โปะ–ปิดตามรอบ shipment เพื่อหลีกเลี่ยงดอกทบ
Factoring / Forfaiting (แบบไม่ค้ำด้วยทรัพย์)
โอนสิทธิเรียกรับเงินจากผู้ซื้อให้ผู้ให้บริการ ผู้ขายรับเงินเร็วและผลักความเสี่ยงบางส่วนออกจากงบดุล
Credit Insurance–Backed
ไม่ใช่ “ทรัพย์ค้ำ” แต่ ประกันเครดิตการค้า ช่วยยืนยันความเสี่ยงผู้ซื้อ ทำให้โครง unsecured แข็งแรงขึ้น
หลักคิด 2568: ใช้ “เอกสารการค้า + โปรไฟล์ผู้ซื้อ + กระแสเงินสดจริง” แทนหลักทรัพย์
คุณภาพเอกสารการค้า: PO/PI, สัญญา, Invoice, BL/AWB, Insurance, CO, Incoterms (ต้องตรงกัน)
กระแสเงินสด & วินัยปิดรอบ: Bank statement 6–12 เดือน, DSO, รอบการผลิต–การรับเงิน
ผู้ซื้อ & ประเทศปลายทาง: Buyer Profile, เครดิตรีพอร์ต/ธนาคารคู่ค้า, ประวัติการชำระ
ประสบการณ์ผู้ขาย: ประวัติส่งออก/อุตสาหกรรม, ความเสถียรของซัพพลายเชน
โครงดีลที่ชัด: ใช้–โปะ–ปิดรอบอย่างไร, แผนเฮดจ์ FX/ประกันเครดิต (ถ้ามี)
Buyer Profile (เทมเพลตหัวข้อ): ชื่อบริษัท–ประเทศ–ปีตั้ง–ยอดขาย–สินค้า–เทอมชำระ–ธนาคารคู่ค้า–ผู้ติดต่อ–เครดิตรีพอร์ต
ชุดเอกสารตรงกัน: PO/PI ↔ สัญญา ↔ Invoice ↔ BL/AWB ↔ Insurance ↔ CO ↔ Incoterms
Bank Statement 6–12 เดือน: ไฮไลต์รอบเงินเข้า–ออกที่สัมพันธ์กับดีลส่งออก
Production & Shipping Plan: เส้นเวลา ผลิต–ตรวจ–ส่ง–ยื่น Post-shipment / วันคาดรับเงิน
Exit/Repayment Plan: เงินเข้าจาก Invoice/LC จะปิด Pre/ลดวงเงินไหน ก่อน–หลัง
Pre-shipment: อิง ต้นทุนผลิต ของ shipment นั้น ๆ (วัตถุดิบ/แรงงาน/แพ็ก) ลดด้วยเงินดาวน์/เงื่อนไขอื่นที่ช่วยค้ำ
Post-shipment: อิง ยอด Invoice/LC หักส่วนกันความเสี่ยง (เช่น 70–90% ของยอดสุทธิ ขึ้นกับผู้ซื้อ/ประเทศ/เอกสาร)
วงเงินหมุนรวม: ควรพอให้ CCC ไม่สะดุด แต่ไม่สูงจนค้างยาว—ตั้ง Policy ใช้–โปะ–ปิดราย shipment
เคส A — PO 4 ล้านบาท / ผลิต 45 วัน / OA 60 วัน
Pre (ไม่ค้ำ): ใช้ 70% ของต้นทุนผลิต → ส่งมอบ → Post (ไม่ค้ำ): Invoice Finance 80% ของยอดสุทธิ → เงินเข้าโปะ Pre และลดวงเงินทันที
เคส B — ผู้ซื้อใหม่/ประเทศเสี่ยงปานกลาง
เทอม DA/LC at sight, Post: LC Discount แบบไม่ค้ำ (ยึดเอกสาร LC) + ทำ Buyer Profile + เครดิตรีพอร์ตแนบ
เคส C — ซีซันพีคหลาย shipment
ใช้ Export Working Capital แบบไม่ค้ำ “ใช้–โปะ–ปิด” ราย shipment เพื่อลดดอกทบ และกระจายความเสี่ยงด้วยประกันเครดิตบางส่วน
Do: ทำ เอกสารการค้าแบบ “ตรวจย้อนกลับได้” ใบต่อใบ, ทำ Matching PO→Invoice→BL, เก็บหลักฐานสื่อสารกับผู้ซื้อ
Do: สร้าง วินัยการใช้วงเงิน: วางรอบใช้–โปะ, ตั้ง Alert วันครบกำหนด, โปะ Pre ก่อนค่อยตุน OD
Do: ใช้ Credit Insurance/เครดิตรีพอร์ต เมื่อผู้ซื้อใหม่/ตลาดใหม่ เพื่อลด haircut ของ Post-shipment
Don’t: ดึง OD ค้างยาวเพื่อแทน Pre/Post—ดอกทบและ DSCR จะเสียรูป
Don’t: เปลี่ยน Incoterms/ปลายทางกระทันหันโดยเอกสารไม่พร้อม—ธนาคารจะชะลอปล่อยงวด
Executive Summary 1 หน้า: สินค้า–ตลาด–ผู้ซื้อ–เทอมจ่าย–โครง Pre/Post–แผนปิดรอบ
Buyer Profile + เครดิตรีพอร์ต: นิติบุคคล, ปีตั้ง, ประเทศ, ธนาคารคู่ค้า, ประวัติชำระ
Commercial Docs: PO/PI/สัญญา, Invoice, Packing List, BL/AWB, Insurance, CO, Incoterms
Financial: Bank statements 6–12 เดือน, งบ/ภาษีที่เกี่ยวข้อง, ลูกหนี้–เจ้าหนี้
Risk: นโยบาย FX/ประกันเครดิต (ถ้ามี), รายการประเทศเสี่ยง/ข้อกำกับ
ไม่มีหลักทรัพย์จริง ๆ จะได้วงเงินไหม? ได้ หากเอกสารการค้า–ผู้ซื้อ–กระแสเงินสดชัด และวงเงินผูกกับ shipment จริง
อัตราดอก/ค่าธรรมเนียมเป็นเท่าไร? ขึ้นกับความเสี่ยงผู้ซื้อ/ประเทศ/ผลิตภัณฑ์/ระยะเวลา—ให้เทียบ “ต้นทุนรวมต่อรอบ” (ดอก + ค่าธรรมเนียม + วันถือเงิน)
ต้องใช้ LC เสมอไหม? ไม่จำเป็น หากใช้ OA/DA ควรมีประกันเครดิตหรือข้อมูลเครดิตผู้ซื้อที่แข็งแรง และเลือก Post-shipment ที่เหมาะ
จะทำให้วงเงินโตเมื่อไหร่? เมื่อใช้แล้ว ปิดรอบตรงเวลา ต่อเนื่อง ธนาคารเห็นข้อมูลจริง จะค่อย ๆ ขยายเพดาน/ลดต้นทุน
เอกสารการค้า ไม่ตรงกัน/แก้บ่อย (PO–Invoice–BL)
ผู้ซื้อ ข้อมูลพร่อง/ติดต่อยาก/เครดิตไม่ชัด
Bank statement สะดุดก้อนใหญ่ ที่ไม่สัมพันธ์ธุรกิจจริง
ใช้วงเงินโดย ไม่มีแผนปิดรอบชัดเจน