ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มีตัวเลือกในด้านสินเชื่อค่อนข้างเยอะในสมัยนี้แต่สินเชื่อใดที่ควรคิดถึงเป็นอันดับต้นๆก่อนเพื่อเสริมความก้าวหน้าของธุรกิจ? เคสกรณีศึกษาของโรงงานผลิตสินค้าขนาดเล็กซึ่งประสบความสำเร็จในการขยายสู่ตลาดส่งออกโดยอาศัยสินเชื่อธุรกิจ SME แบบไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหากสนใจสินเชื่อธุรกิจ sme ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
โรงงานผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรขนาดเล็กในจังหวัดปทุมธานี ดำเนินกิจการมากว่า 5 ปี มีพนักงาน 15 คน และมีรายได้เฉลี่ยปีละ 8 ล้านบาท แม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้รับการตอบรับที่ดีในระดับหนึ่งจากลูกค้าในประเทศแต่บริษัทประสบปัญหาสำคัญคือ
เงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอต่อการรองรับออเดอร์ขนาดใหญ่
กำลังการผลิตจำกัดเนื่องจากเครื่องจักรมีขนาดเล็กและเป็นรุ่นเก่าต้องใช้พนักงานคอยคุมตลอดเวลา
ขาดเงินลงทุนในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานส่งออก
ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินทั่วไป
ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้บริษัทจึงต้องพลาดโอกาสทำเงินจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศหลายครั้งทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ
ตลาดเครื่องสำอางสมุนไพรในต่างประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และตะวันออกกลาง ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปีและมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ซึ่งโอกาสตรงนี้รอให้คนที่มีความพร้อมเข้าไปคว้า
เพื่อเข้าสู่ตลาดส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้อง
1.ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน GMP อย่างเคร่งครัด โดยเน้นการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอนด้วยเครื่องจักรใหม่
2.พัฒนาเพิ่มแบบบรรจุภัณฑ์นอกจากที่มีอยู่เดิม ให้ตรงตามข้อกำหนดของประเทศปลายทางและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
3.เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับออเดอร์ขนาดใหญ่พร้อมวางแผนการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
4.จัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงในปริมาณมากจากแหล่งที่เชื่อถือได้และมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด
เมื่อเปรียบเทียบกับสินเชื่ออื่นๆ เช่นสินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันแม้มีวงเงินสูงกว่าแต่ผู้บริหารเลือกสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจากแม้วงเงินไม่สูงเท่าสินเชื่อที่ใช้ทรัพย์ค้ำแต่ก็เพียงพอสำหรับการลงทุนขยายกิจการ
ได้รับอนุมัติสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงิน 5 ล้านบาท และนำไปลงทุนดังนี้
3 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรผลิตและบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ
1 ล้านบาท ปรับปรุงโรงงานให้ได้มาตรฐาน GMP
1 ล้านบาท จัดซื้อวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง
หลังจากการลงทุน บริษัทเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 300% จาก 5,000 ชิ้นต่อเดือน เป็น 20,000 ชิ้นต่อเดือน
ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และ HALAL
เริ่มส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และเร็ววันนี้ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ยอดขายเพิ่มขึ้น 150%
แม้ว่าสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อทั่วไป (ประมาณ 12-15% ต่อปี) แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนคุ้มค่ามาก
ต้นทุนดอกเบี้ยประมาณ 600,000-750,000 บาทต่อปี
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 3.6 ล้านบาทต่อปี
ROI (Return on Investment) สูงถึง 72% ในปีแรก
กรณีศึกษาแสดงให้เห็นว่าสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศได้แม้จะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่าแต่หากนำไปลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพผลตอบแทนที่ได้รับจะคุ้มค่ากับการลงทุน
สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่กำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจแม้ไม่ได้ติดขัดเรื่องหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อประเภทนี้อาจเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณาโดยเฉพาะเมื่อมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนและมีตลาดรองรับที่แน่นอน
หากท่านเจ้าของกิจการต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและรับคำปรึกษาฟรีจากผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อธุรกิจโดยตรงได้ฟรีครับ
#สินเชื่อธุรกิจSME #สินเชื่อไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน #ธุรกิจส่งออก #แหล่งเงินทุนSME #สินเชื่อเพื่อธุรกิจ #กู้เงินขยายกิจการ