เข้าใจเงื่อนไข วงเงิน เอกสาร และกลยุทธ์อนุมัติไว ตั้งแต่ครั้งแรก
ธุรกิจที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาไม่หยุด งานล้นมือ แต่ “เงินหมุน” ไม่ทัน คือภาพที่หลายกิจการเจอจริงทุกวัน ทางออกคือ สินเชื่อธุรกิจ SME แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ที่ใช้ “กระแสเงินสด–Statement–เครดิตธุรกิจ” เป็นหลัก ไม่ต้องเอาบ้าน/ที่ดิน/รถไปค้ำ ลดความเสี่ยงเจ้าของกิจการ และเดินเครื่องการขายต่อเนื่องได้
เป็นวงเงินกู้เพื่อธุรกิจที่พิจารณาจาก “ศักยภาพการทำเงินของกิจการ” มากกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ โดยทั่วไปผู้ให้กู้จะดู 3 เสาหลัก:
รายได้และความสม่ำเสมอ (ยอดขาย/สเตทเมนต์เข้า–ออก)
วินัยทางการเงิน (เครดิต, ภาระหนี้, การชำระตรงเวลา)
หลักฐานธุรกิจ (เอกสารจดทะเบียน/ภาษี/สัญญาซื้อขาย/ใบสั่งซื้อ ฯลฯ)
ข้อดี: ไม่ต้องเอาทรัพย์สินส่วนตัวเสี่ยง, อนุมัติเร็วกว่า, เหมาะกับธุรกิจที่กำลังขยายตัว
ข้อจำกัด: วงเงินผูกกับรายได้และเครดิต, ต้องมีเอกสารการเงินที่ “สะอาด–ตรวจสอบได้”
กิจการที่มี ออเดอร์/PO ต่อเนื่อง แต่ต้องเติมสต๊อก–วัตถุดิบ–แรงงาน
ร้านอาหาร/คาเฟ่/บริการ ที่ เงินหมุนเวียน คือหัวใจ
ผู้รับเหมาก่อสร้าง/ขนส่งที่ต้อง สำรองจ่าย ก่อนรับเงินงวด
ธุรกิจบริการ (ซ่อมบำรุง, ทำความสะอาด, Outsource) ที่รับงานรายเดือน
ผู้ส่งออก/ผู้ผลิตล็อตเล็ก ที่ต้อง ซื้อของ–ผลิต–ส่งมอบ ให้ทันกำหนด
อยากดูตัวอย่างเฉพาะอุตสาหกรรม?
ลิงก์ไปหน้า: สำหรับร้านอาหาร, ผู้รับเหมาก่อสร้าง, ธุรกิจบริการ, ขนส่งรายเล็ก, ผู้ประกอบการรายใหม่
ตัวเลขขึ้นกับผู้ให้กู้/คะแนนเครดิต/ศักยภาพธุรกิจ — ใช้เพื่อประเมินเบื้องต้นเท่านั้น
วงเงิน: มักพิจารณาเป็น “เท่าของยอดขาย/กระแสเงินสด” (เช่น หลายสิบ–หลายร้อย % ของยอดหมุนเวียนเฉลี่ย)
ประเภท: วงเงินหมุนเวียน (เบิก–คืนได้), เงินกู้ผ่อนคงที่
ดอกเบี้ย: แปรผันตามโปรไฟล์ (ธุรกิจแข็ง–เอกสารชัด–วินัยดี → มีโอกาสได้อัตราดีกว่า)
ระยะเวลา: หมุนเวียน 12–36 เดือน, ผ่อน 12–60 เดือน (ขึ้นกับเคส)
เงื่อนไขสำคัญ: ผู้กู้–กรรมการไม่ติดเครดิตบูโรหนัก, ไม่มีค้างชำระนาน, ภาษี–บัญชีพอพิสูจน์รายได้
ต้องการประเมิน “วงเงินเหมาะสม” ของกิจการตัวเอง → ลิงก์ไปหน้า วงเงินสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์
ซื้อวัตถุดิบ / เพิ่มสต๊อก เพื่อรับดีมานด์ช่วงพีก เจรจาซื้อเหมาได้ส่วนลดเพิ่ม 2–10% ต่อหน่วย ช่วยให้กำไรต่อชิ้นสูงขึ้น และลดความเสี่ยง “ของขาด”
สำรองค่าแรงงาน / ขนส่ง / วัสดุสำหรับงานโครงการ กรณีลูกค้า B2B จ่าย 30–60 วัน ใช้วงเงินสำรองให้การผลิต–ส่งมอบไม่สะดุด รักษา KPI เรื่องเวลาส่งของได้
ปรับปรุงอุปกรณ์/เครื่องมือ เช่น เตา อุปกรณ์บรรจุ เครื่องซีล/เครื่องคัด ลดของเสีย–เพิ่มผลผลิต มีโอกาสคืนทุน 6–18 เดือนจากต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง
ทำการตลาด / เปิดจุดขายเล็ก (Pop-up/Kiosk) ทดลองยิงแอด 2–4 สัปดาห์, ทำแคมเปญเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือขยายสาขาย่อยในทำเลที่มีทราฟฟิกสูง
สะพัดกระแสเงินสด (Cash-flow bridging) ระหว่างรอเงินลูกหนี้ ใช้เป็นวงเงินหมุน 30–90 วัน แยกบัญชีรับ–จ่ายให้ชัด จะคุมวินัยการผ่อนและดอกเบี้ยได้ดี
ซื้อก่อน–จ่ายทีหลังเพื่อ “ส่วนลดเงินสด” ใช้วงเงินชำระภายในกำหนด เพื่อรับส่วนลดคู่ค้า 2–3% ซึ่งมักคุ้มกว่าดอกเบี้ยรายเดือน (กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นทันที)
ยกระดับมาตรฐาน/ใบรับรอง เช่น อย., GMP, ISO, มอก., มาตรฐานความปลอดภัยสถานประกอบการ เพื่อเข้าโมเดิร์นเทรด–แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่
รีไฟแนนซ์หนี้สั้นดอกสูง รวมบัตรกดเงินสด/โพยก๊วน/แฟคตอริ่งมาเป็นก้อนเดียวดอกต่ำลง โครงสร้างหนี้สั้นลง จ่ายเป็นงวดเดียว ช่วยคุมกระแสเงินสดง่ายขึ้น
ลงทุนระบบ/ซอฟต์แวร์ (POS, WMS, CRM, e-Invoice) ช่วยติดตามลูกหนี้เร็ว ลดสต๊อกค้าง และเห็นภาพกระแสเงินสดแบบเรียลไทม์
ทิปจากที่ปรึกษา: ใช้เงินกู้กับ “กิจกรรมที่สร้างกระแสเงินสดชัดเจน” (เพิ่มยอด/ลดต้นทุน) และทำ แผนหมุนเงิน 90 วัน คร่าว ๆ ทุกครั้ง จะเห็นทันทีว่าวงเงินที่ใช้ “คืนตัวเอง” เมื่อไร และคุมดอกเบี้ยให้อยู่ในกรอบได้ง่ายขึ้นครับ.
เช็กลิสต์เร็ว 8 ข้อ
จดทะเบียนนิติบุคคล/ผู้ประกอบการตามกฎหมาย มี หนังสือรับรอง/ทะเบียนพาณิชย์
เปิดดำเนินการ ≥ 6–12 เดือน (หลายที่ต้องการ ≥ 12 เดือน)
ยอดขายมีความสม่ำเสมอ (สเตทเมนต์เข้า–ออกชัด, ไม่มีการหมุนเทียม)
มี ใบกำกับภาษี/ภ.พ.30/50 หรือเอกสารรายได้ที่ตรวจสอบได้
เครดิตเจ้าของ–กรรมการ ไม่มีค้างเกิน 90 วัน/ไม่มีคดีความร้ายแรง
ภาระหนี้ต่อรายได้ อยู่ในระดับที่รับได้ (DSR/Debt Service ไม่บีบเกินไป)
คู่ค้าจริง มีเอกสารสนับสนุน (PO, สัญญา, ใบส่งของ)
เอกสารสำคัญ ชื่อ–ที่อยู่–เลขนิติ ตรงกันทุกชุด
ถ้าข้อไหน “ยังไม่พร้อม” อย่าเพิ่งยื่น — ปรับโครงสร้างเอกสารก่อน 2–4 สัปดาห์ จะเพิ่มโอกาสผ่านอย่างมาก
เอกสารนิติบุคคล
หนังสือรับรอง/วัตถุประสงค์/ผู้มีอำนาจลงนาม (ไม่เกิน 3 เดือน)
บอจ./ภ.พ.20/ภ.พ.30 (ถ้ามี), งบ/รายงานภาษี, สัญญาเช่าที่ตั้ง (ถ้ามี)
เอกสารการเงิน
สเตทเมนต์บัญชีธุรกิจ 6–12 เดือน
ภ.พ.30/50, บัญชีรายรับ–จ่าย/รายงาน POS (ถ้ามี)
เอกสารงาน–คู่ค้า
ใบสั่งซื้อ (PO), สัญญาว่าจ้าง, ใบเสนอราคา, ใบส่งของ/ใบกำกับภาษี
เอกสารส่วนบุคคล (กรรมการ)
บัตร/ทะเบียนบ้าน, Statement ส่วนตัว (ในบางเคส)
แนะนำทำ แฟ้มเอกสารหนึ่งฉบับ เรียงตามลิสต์ และทำ ไฟล์ PDF เป็นชุดเทียบกัน ช่วยให้อนุมัติไว
วัดศักยภาพก่อน
ดูยอดขายเฉลี่ย 6–12 เดือน, เงินเข้า–ออกในสเตทเมนต์, ภาระหนี้ที่ต้องจ่ายต่อเดือน และเครดิตของผู้มีอำนาจลงนาม
ตั้ง “กรอบกันชน” ว่าหลังรวมค่างวดใหม่แล้ว ยังเหลือเงินสดปลอดภัย พอ (เลี่ยงตึงเกินไป)
ถ้ารายได้เป็นเงินสดเยอะ ให้เริ่ม นำฝากสม่ำเสมอ 2–4 สัปดาห์ ก่อนยื่น เพื่อให้ภาพกระแสเงินสดนิ่งขึ้น
จัดเอกสารให้ “สะอาด–ต่อเนื่อง”
ชื่อบริษัท/ที่อยู่/เลขผู้เสียภาษี/บัญชีธนาคารต้อง ตรงกันทุกชุด (หนังสือรับรอง–ภาษี–สเตทเมนต์–สัญญา)
รวมไฟล์เป็น PDF ชุดเดียว/เรียงลำดับ (เช่น 01_หนังสือรับรอง.pdf, 02_ภพ20.pdf, 03_Statement.pdf…)
แนบ สรุป 1 หน้า อธิบายยอดผิดปกติ (ถ้ามี) เพื่อตอบคำถามล่วงหน้า
เขียนวัตถุประสงค์เงินกู้ให้ชัด
ระบุว่าจะใช้ทำอะไร, กระทบยอดขาย/ต้นทุนอย่างไร, คาดการณ์คืนทุน/ชำระคืน จากกระแสเงินสดไหน
ตัวอย่าง: “เพิ่มสต๊อกวัตถุดิบรับ High Season (+15% ยอดขาย), ใช้ OD 400k หมุน 60 วัน, ชำระคืนจากยอดเข้าเดลิเวอรีรายวัน”
ยื่นหลายผู้ให้กู้ “อย่างมีแผน”
เทียบข้อเสนอเพื่อหาวงเงิน/เงื่อนไขดีที่สุด แต่หลีกเลี่ยงการ “ยิงพร่ำ”
เลือก 2–3 รายที่เข้ากับโปรไฟล์ธุรกิจ, บันทึกเป็น ตารางเทียบข้อเสนอ (วงเงิน/ดอก/ค่าธรรมเนียม/หลักฐานที่ขอเพิ่ม)
เว้นช่วงคำขอใหม่ ถ้าเจรจายังไม่จบ เพื่อลดรอยค้นประวัติบ่อยเกินจำเป็น
ตอบเร็ว–ส่งครบ ระหว่างตรวจสอบ
ตั้ง ผู้รับผิดชอบเอกสารคนเดียว (POC) และตอบกลับภายใน 24 ชม. เมื่อมีคำขอเพิ่มเอกสาร
เตรียม “แพ็กมาตรฐาน” ไว้ล่วงหน้า เช่น รายการลูกค้าหลัก, PO/สัญญา, ภาพกิจการ/สต๊อก, รายงานขายจาก POS
ยิ่งรอบแรกครบ–ชัด รอบติดตามจะสั้นลงมาก
เตรียมทางเลือกค้ำประกันเสริม (ถ้าจำเป็น)
กรณีเอกสารยังบาง/วงเงินสูง อาจใช้โครงสร้าง ค้ำเสริม (เช่น บสย.) หรือให้ผู้กู้ร่วมตามนโยบาย
เตรียมข้อมูลค่าธรรมเนียม–เงื่อนไข และเอกสารของผู้ค้ำ/ผู้กู้ร่วมไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ดีลสะดุดตอนปลายทาง
ลดรายการ “หนี้ส่วนตัว” ที่ไม่จำเป็น ก่อนยื่น 30–45 วัน เพื่อลด DSR
กันเงินเข้า–ออก ให้ดูธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการโอนวนที่ผิดปกติ
ทำสรุปยอดขายรายเดือน (1 หน้า) แนบกับไฟล์ เพื่อให้อนุมัติอ่านเร็ว
แนบหลักฐานลูกค้ารายใหญ่/PO ชี้ชัดว่างานกำลังวิ่งและต้องใช้เงินหมุน
เตรียมคำตอบ 3 เรื่อง: ใช้เงินทำอะไร? คืนเงินจากอะไร? แผนฉุกเฉินถ้ายอดขายสะดุด?
Q: ไม่มีทรัพย์ค้ำเลย ขอได้ไหม?
A: หลายโปรแกรมพิจารณาจากกระแสเงินสด+เครดิตธุรกิจได้ แต่ถ้าเอกสารไม่ครบ/เครดิตอ่อน อาจต้องใช้ “ค้ำเสริม” เช่น บสย.
Q: ยอดขายขึ้นๆ ลงๆ จะกระทบไหม?
A: ดูภาพรวม 6–12 เดือน หากยอดขายชัดเจนและมีเหตุผลประกอบ (ฤดูกาล/งานโครงการ) ยังมีโอกาสผ่าน
Q: ใช้เวลาพิจารณานานเท่าไหร่?
A: ตั้งแต่ 3–15 วันทำการ ขึ้นกับความพร้อมเอกสารและความซับซ้อนของเคส
Q: ติดบูโรขอได้ไหม?
A: ถ้าค้างชำระเกิน 90 วัน/สถานะเสีย อาจต้องเคลียร์ก่อน หรือใช้โปรแกรมเฉพาะทางที่เข้มเอกสารมากขึ้น
Q: บริษัทอายุยังไม่ถึงปี ยื่นได้ไหม?
A: บางผู้ให้กู้ต้องการ ≥ 12 เดือน แต่มีบางโปรแกรมที่ยืดหยุ่น หากเอกสารรายได้–สัญญางานชัดเจน
Q: ขอเท่าไหร่ดี?
A: ประเมินจากรอบเงินหมุนและความสามารถชำระ (ไม่ดึงตึงเกินไป) — ดูหน้า วงเงินเหมาะสม
เปรียบเทียบสินเชื่อ SME ไม่ใช้หลักทรัพย์
คู่มือขอสินเชื่อ 2568 ให้ผ่านในครั้งเดียว
อุตสาหกรรมเฉพาะ: ร้านอาหาร / ผู้รับเหมาก่อสร้าง / ธุรกิจบริการ / ขนส่งรายเล็ก / ผู้ประกอบการรายใหม่ / ผู้ส่งออก (มีหลักประกัน vs ไม่มีหลักทรัพย์)
เงื่อนไขเฉพาะ: กรณีติดเครดิตบูโร, วงเงินเหมาะสม
บสย.ค้ำประกัน