ร้านอาหารต้องการเงินหมุน/ขยายสาขาแต่ไม่อยากผูกทรัพย์ค้ำ? บทความนี้สรุปวงเงินไม่ใช้หลักทรัพย์ เกณฑ์อนุมัติ เอกสารสำคัญ และวิธีใช้ บสย. ให้คุ้มในปี 2568.
ธุรกิจร้านอาหารมีรายรับรายวัน แต่ค่าใช้จ่ายผันผวนหลายรายการ (วัตถุดิบสด ค่าแรง ค่าเช่า ยูทิลิตี้ ค่าธรรมเนียมเดลิเวอรี) จึงต้องการวงเงินที่ดึง–โปะตามจริงได้ วงเงินแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ช่วยให้เข้าถึงสภาพคล่องโดยไม่ต้องผูกทรัพย์สิน ทั้งนี้ธนาคารจะดูคุณภาพตัวเลขและวินัยเครดิตเป็นหลัก หากต้องการภาพรวมแนวคิดตั้งแต่วงเงิน–เอกสาร–เงื่อนไข แนะนำอ่าน คู่มือสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก่อนลงมือ
งานวิจัยตลาดคาดว่าอุตสาหกรรมร้านอาหาร/เครื่องดื่มยังเติบโตต่อเนื่องในช่วง 2024–2026 ราว 4–5% ต่อปี หนุนโดยการฟื้นตัวของดีมานด์ท่องเที่ยวและการบริโภค แต่ฝั่งธนาคารยังคุมความเสี่ยงฝั่ง SME เข้มกว่าลูกค้าองค์กรใหญ่ ผู้ประกอบการที่ “งบแข็ง–วินัยดี–แผนชัด” จะเจรจาวงเงินได้ง่ายกว่า.
วงเงินหมุนเวียน (OD / Revolving): ใช้ซื้อวัตถุดิบ จ่ายค่าแรง ค่ากล่อง–เดลิเวอรี ค่าน้ำไฟ โปรโมชันสั้น ๆ ดึง–โปะตามรอบจริง ดอกเบี้ยคิดตามยอดคงค้างรายวัน
Working Capital / Term Loan (ไม่ค้ำ): รีโนเวตครัว ลงทุนระบบ POS/ครัวกลาง เปิดสาขา ผ่อนเป็นงวดคงที่/ขั้นบันได วางแผนกระแสเงินสดได้
Multi-banking: แบ่งบทบาท 2–3 ธนาคาร ลดเสี่ยงกระเป๋าเดียว เพิ่มอำนาจต่อรอง
ค้ำประกันโดย บสย. (PGS 11): เหมาะเมื่อทรัพย์ค้ำจำกัดแต่ยอดขายสม่ำเสมอ เพิ่มโอกาสอนุมัติ/ขนาดวงเงิน
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกโครงไหน เหมาะกับโมเดลร้านของคุณ ลองดูสรุปข้อดี–ข้อควรระวังในหน้า เปรียบเทียบสินเชื่อ SME ไม่ใช้หลักทรัพย์
เหมาะกับค่าใช้จ่ายที่เกิดถี่และเปลี่ยนตามยอดขาย เช่น วัตถุดิบ ค่าแรงรายชั่วโมง ค่ากล่อง/เดลิเวอรี ยูทิลิตี้ จุดเด่นคือ “ดึง–โปะ” ตามจริง ลดดอกเบี้ยเมื่อโปะเร็ว
ตั้งวงเงินอย่างพอดี:
รวม “ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน” + “ค่าใช้จ่ายผันแปรเฉลี่ย”
ตั้ง OD ≈ 1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน + Buffer 10–20% สำหรับช่วงพีค/เทศกาล
ตั้งเป้าใช้วงเงินเฉลี่ย 50–70% ให้มีที่ว่างยามฉุกเฉิน และพยายาม “ปิดวงเงิน” อย่างน้อยไตรมาสละครั้ง
ตัวอย่างย่อ: ค่าใช้จ่ายคงที่ 350,000 + ผันแปร 250,000/เดือน → OD ~ 525,000–700,000 + Buffer 10% ≈ 580,000–770,000
ข้อควรเลี่ยง: อย่าใช้ OD ไปลงทุนระยะยาว (รีโนเวตใหญ่/ครัวกลาง) เพราะจะทำให้คงค้างเต็มเพดาน ดอกเบี้ยบาน — งานลงทุนใช้ Term จะเหมาะกว่า
เหมาะกับรีโนเวต ลงทุน POS/ครัวกลาง หรือเปิดสาขาใหม่
ระยะเวลากู้ควรสอดคล้อง “อายุการใช้งานสินทรัพย์” (โดยทั่วไป 1–5 ปี)
ขอ ผ่อนดอกช่วงแรก ได้ในบางกรณี ระหว่างรอรายได้สาขาใหม่เริ่มเข้า
ตั้งเป้า DSCR ≥ ~1.2–1.3 ให้มีหัวคานเผื่อยอดขายตก
ตัวอย่าง: รีโนเวต 900,000 คาดทำให้ EBITDA เพิ่ม 45,000/เดือน → ผ่อน 36–48 เดือนสบาย ถ้า “กำไรเพิ่ม” ครอบค่างวด พร้อมเก็บ OD สำหรับวัตถุดิบช่วงเปิดร้าน
กำหนดบทบาทชัด: ธนาคาร A = OD, ธนาคาร B = Term/Working Capital
ทำให้ เงื่อนไข (Covenants) ไปทิศทางเดียวกัน ลดความเสี่ยงผิดเงื่อนไขข้ามแบงก์
รวมรอบส่งเอกสาร/งบให้ทุกแบงก์ในครั้งเดียว ลดภาระหลังบ้าน
เหมาะกับร้านที่บัญชีเดินดี ยอดขายสม่ำเสมอ แต่ไม่มีทรัพย์ค้ำมาก การค้ำช่วยให้ธนาคารรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นและอาจได้วงเงินเหมาะสมขึ้น อย่างไรก็ดีมี ค่าธรรมเนียมค้ำประกันรายปี จึงควรเทียบ “กำไรเพิ่มจากวงเงิน” กับ “ค่าค้ำรวม” เสมอ
Pain → Option → Fit (เลือกให้ตรงโมเดลร้าน)
Pain: เงินสดเข้าทุกวันแต่กำไรต่อจานบาง วัตถุดิบต้องซื้อล่วงหน้า เสี่ยงเสียหาย เครดิตกับซัพพลายเออร์จำกัด มีซีซันแนล/ดีมานด์พีค
Option:
Dine-in: ตั้ง OD ครอบคลุม 1–1.5 รอบสต๊อก + ค่าแรง
เดลิเวอรี/คลาวด์คิทเช่น: OD รับรอบโอนแพลตฟอร์ม + Term ลงทุนครัว/อุปกรณ์
แฟรนไชส์/ขยายสาขา: Term สำหรับค่าเซ็ตอัพ + OD สำหรับวัตถุดิบช่วงเปิดร้าน
Fit: วงเงินรวมอย่าเกิน “เงินสดสุทธิ 9–12 เดือน” และเผื่อ Headroom 10–15% สำหรับเหตุไม่คาดคิด/ข้อกำหนดทางการเงิน
วาด รอบรับ–จ่าย 6–12 เดือน (POS/เดลิเวอรี vs วันจ่ายซัพพลายเออร์–ค่าแรง)
คำนวณค่าใช้จ่าย คงที่ + ผันแปร ต่อเดือน
ตั้ง OD = 1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน + Buffer 10–20%
ใช้ Term/Working Capital เฉพาะการลงทุนที่สร้างรายได้เพิ่มชัดเจน
ติดตาม Breakeven/COGS/ค่าแรง/ค่าเช่า รายเดือน แล้วปรับวงเงินตามจริง
ก่อนยื่นจริง แนะนำลองทำ วิธีประเมินตัวเองก่อนยื่นขอสินเชื่อ เพื่อดูความพร้อมเบื้องต้น
รายงานยอดขายจาก POS/เดลิเวอรี รายวัน–รายเดือน
ใบกำกับภาษี/บิลซื้อวัตถุดิบ + เงื่อนไขเครดิตซัพพลายเออร์
สเตทเมนต์ธนาคาร 6–12 เดือน ยืนยันกระแสเงินสด
งบการเงิน 2–3 ปี + งบระหว่างกาล, Aging ลูกหนี้/เจ้าหนี้ (ถ้ามีเครดิต)
แผนขยาย/รีโนเวต พร้อม ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน
ต้องการรายการเอกสารฉบับเต็ม ดูได้ที่ เช็กลิสต์เอกสาร
สัปดาห์ 1: สรุปรายได้–ต้นทุน 6–12 เดือน + ทำ Cashflow แบบ conservative
สัปดาห์ 2: ยื่น 2–3 ธนาคารพร้อมกัน (ตั้ง OD + Term ตามแผน)
สัปดาห์ 3–4: ตอบ Due Diligence/เจรจาเงื่อนไข + (ถ้าใช้) เอกสารค้ำ บสย.
สัปดาห์ 5–6: อนุมัติ–เปิดใช้วงเงิน