ผู้รับเหมาก่อสร้างมักติด “รอบเงินงวดงาน–เงินประกันผลงาน” ทำให้เงินตึง วงเงินไม่ใช้หลักทรัพย์ช่วยเติมสภาพคล่อง ควบคู่กับเอกสารโครงการและการคุมกระแสเงินสดอย่างเป็นระบบ
งานก่อสร้างรับเงินเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน (progress payment) และมักถูก หักเงินประกันผลงาน (retention) ไว้ระหว่างทาง ทำให้กระแสเงินสด “เข้า–ออก” ไม่ตรงกัน วงเงินแบบไม่ใช้หลักทรัพย์จึงช่วยปิดช่องว่างโดยไม่ต้องผูกทรัพย์สิน แต่ธนาคารจะพิจารณาเข้มเรื่องคุณภาพสัญญา รายได้ย้อนหลัง วินัยเครดิต และความสามารถชำระคืน ตามทิศทางปี 2568 ที่ภาพรวมสินเชื่อ SME ยังถูกคัดกรองเข้มกว่าลูกค้าองค์กรใหญ่ ผู้ที่มีงบการเงินและแผนใช้เงินชัดเจนยังมีโอกาสได้เงื่อนไขแข่งขันได้
ดูภาพรวมตั้งแต่ขั้นตอน–วงเงิน–เอกสารใน คู่มือสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
วงเงินหมุนเวียน (OD/Revolving): ใช้จ่ายค่าแรง ค่าวัสดุเบื้องต้น ค่าผู้รับเหมาช่วง และค่าใช้จ่ายหน้างานระหว่างรอเบิกงวด ดึง–โปะตามกระแสเงินสดจริง
Working Capital / Term Loan (ไม่ค้ำ): ใช้รองรับงานก้อนใหญ่ที่มีตารางงวดงานชัดเจน หรือปรับปรุงอุปกรณ์/คลังเครื่องมือ
PO/Contract-based Working Capital: อ้างอิง สัญญาจ้าง/ใบสั่งซื้อ ของโครงการที่มีความแน่นอน (ใช้คู่กับชุดเอกสารโครงการ)
เครื่องมือค้ำประกันโครงการที่เกี่ยวข้อง (บริบท): งานบางประเภทต้องมี หนังสือค้ำประกันการชำระเงินล่วงหน้า (Advance Payment Bond) หรือค้ำประกันสัญญา (Performance Bond) ควบคู่กับวงเงินสำหรับหมุนงาน ซึ่งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินรัฐมีบริการให้เลือก
Pain ที่พบบ่อย: เงินเข้าเป็นงวด, มี Retention หักไว้, ต้นทุนหน้าไซต์ต้องจ่ายก่อน (แรงงาน วัสดุ ผู้รับเหมาช่วง), อาจมี เงินล่วงหน้า (Advance) ที่ต้องออกหลักประกันประกอบ
Option ที่เหมาะ:
งานมีตารางงวดงานชัดเจน → OD สำหรับรายจ่ายประจำ + Working Capital ผูกแผนใช้เงินตามงวด
มีเงินล่วงหน้า/งานรัฐ → เตรียม Advance Payment Bond และเผื่อวงเงินหมุนสำหรับวัสดุ/แรงงาน
งานหลายไซต์พร้อมกัน → Multi-banking แบ่งวงเงินกับ 2–3 สถาบัน ลดเสี่ยง “กระเป๋าเดียว”
Fit (แนวใช้งาน): หมุนเวียนใช้ OD, ลงทุนอุปกรณ์/งานก้อนใหญ่ใช้ Working Capital/Term, วงเงินรวมทั้งชุดอย่าเกิน เงินสดสุทธิ ~9–12 เดือน และเผื่อ Headroom 10–15% ป้องกันผิดเงื่อนไข
สัญญาจ้างก่อสร้าง/ประกวดราคา (TOR/แบบ/BOQ) และ ตารางงวดงาน–งวดเงิน (Progress Payment Schedule)
ใบรับรองงานงวด (Payment Certificate) / หลักฐานการเบิกงวดย้อนหลัง 6–12 เดือน (ถ้ามี)
หลักฐานเงินประกันผลงาน (Retention) และเงื่อนไขค้ำประกัน ที่กำหนดในสัญญา (เช่น ค้ำสัญญา 5% ตามแนวปฏิบัติภาครัฐ)
งบการเงิน 2–3 ปี + งบระหว่างกาล, สเตทเมนต์ 6–12 เดือน, Aging ลูกหนี้–เจ้าหนี้, โครงสร้างผู้ถือหุ้น/อำนาจกรรมการ
ประมาณการกระแสเงินสด 12–24 เดือน ผูกกับแผนงานแต่ละไซต์/แต่ละโครงการ
อ่าน “Retention” และค้ำสัญญา แบบไม่ให้พลาดกระแสเงินสด
งานภาครัฐมักกำหนด ค้ำสัญญา ~5% ของมูลค่าสัญญา และอาจ หักเงินประกันผลงาน ตามงวดจ่าย เงินส่วนนี้จะคืนเมื่อครบเงื่อนไขตามสัญญา ผู้รับเหมาจึงควรแยก “ค้ำสัญญา” ออกจาก “Retention” และกันกระแสเงินสดไว้เพียงพอในช่วงก่อสร้าง.
หากงบการเงินโปร่งใส งานมีความต่อเนื่อง และบริหารไซต์ได้ดี การใช้ ค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. (PGS 11) ช่วยให้ธนาคารกล้าปล่อยวงเงินไม่ค้ำมากขึ้น (อยู่ในกรอบโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ) และปี 2568 ยังมีมาตรการ/กิจกรรมเสริมเพื่อช่วย SME เข้าถึงสินเชื่อมากขึ้นด้วย. ก่อนยื่นควรตรวจรายละเอียดเพดานค้ำ ค่าธรรมเนียม และคุณสมบัติล่าสุด.
วาง แผนรับ–จ่าย ของแต่ละโครงการ 6–12 เดือน (อิงตารางงวดงาน)
คำนวณต้นทุนหน้าไซต์ขั้นต่ำ (แรงงาน วัสดุ ผู้รับเหมาช่วง ค่าเครื่องจักร)
ตั้ง OD = 1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่เฉลี่ย/เดือน + Buffer 10–20% เผื่องวดเงินล่าช้า
ใช้ Working Capital/Term สำหรับงานก้อนใหญ่หรือหลายไซต์พร้อมกัน
เผื่อ Headroom 10–15% สำหรับเงื่อนไขค้ำสัญญา/เหตุไม่คาดคิด
ก่อนยื่นจริง แนะนำให้ทำ วิธีประเมินตัวเองก่อนยื่นขอสินเชื่อ แบบรวดเร็ว เพื่อดูความพร้อมเบื้องต้น
สัญญา–BOQ–ตารางงวดงาน | ใบรับรองงวด/ประวัติเบิกงวด | หลักฐาน Retention/ค้ำสัญญา | สเตทเมนต์ 6–12 เดือน | งบการเงิน + ประมาณการเงินสด 12–24 เดือน
สรุปอีกครั้ง: หากต้องการคู่มือฉบับเต็ม โปรดดู คู่มือสินเชื่อธุรกิจ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน