เทคนิคคำนวณวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจ

2. การคำนวณจากต้นทุนและเงินสำรอง

อีกวิธีหนึ่งคือการคำนวณจากความต้องการใช้เงินจริง

ต้นทุนทั้งหมดที่ต้องใช้ + เงินสำรอง = วงเงินสินเชื่อที่ควรขอ

ตัวอย่างหากคุณต้องการเงินทุนสำหรับซื้อเครื่องจักรมูลค่า 500,000 บาท

• ต้นทุนเครื่องจักร = 500,000 บาท

• เงินสำรองสำหรับค่าติดตั้งและเผื่อฉุกเฉิน = 50,000 บาท

• วงเงินสินเชื่อที่ควรขอ = 550,000 บาท

3. หลักการ 80% สำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ

สำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นหรือยังไม่มั่นใจในกระแสเงินสด ควรใช้หลักการ

ขอสินเชื่อไม่เกิน 80% ของยอดที่จำเป็นต้องใช้

ตัวอย่าง: หากคุณต้องการเงินทุน 400,000 บาท

• วงเงินสินเชื่อที่ควรขอ = 400,000 x 80% = 320,000 บาท

• ส่วนที่เหลือควรมาจากเงินทุนส่วนตัว

ตัวอย่างการคำนวณวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจในสถานการณ์ต่างๆ

ex1. ธุรกิจร้านอาหารต้องการขยายสาขา

• รายได้สุทธิต่อเดือน: 150,000 บาท

• ค่างวดสูงสุดที่ผ่อนได้: 150,000 x 40% = 60,000 บาท/เดือน

• ระยะเวลาผ่อน: 5 ปี (60 เดือน)

• อัตราดอกเบี้ย: 7% ต่อปี

• วงเงินสินเชื่อที่สามารถขอได้: ประมาณ 2,800,000 บาท

ex2. ธุรกิจผลิตสินค้าต้องการซื้อเครื่องจักรใหม่

• ต้นทุนเครื่องจักร: 1,200,000 บาท

• ค่าติดตั้งและทดสอบระบบ: 100,000 บาท

• เงินสำรองฉุกเฉิน: 200,000 บาท

• วงเงินสินเชื่อที่ควรขอ: 1,500,000 บาท

   การคำนวณวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจอย่างเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณจากรายได้สุทธิ การประเมินความต้องการใช้เงินจริง หรือการใช้หลักการ 80% สำหรับผู้เริ่มต้น ล้วนเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   อย่าลืมว่า การขอสินเชื่อไม่ใช่เพียงแค่การได้รับเงินทุน แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางการเงินกับสถาบันการเงิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณในระยะยาว

   ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อธุรกิจหรือต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยคำนวณวงเงินที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ? เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและบริการให้คำปรึกษาฟรี!

#สินเชื่อเพื่อธุรกิจ #กู้เงินด่วน #สินเชื่อเงินด่วน #สินเชื่อถูกกฎหมาย #สินเชื่อเงินด่วนอนุมัติเร็ว #เงินทุนธุรกิจ #SME