โรงงานมักเงินตึงเพราะรอบผลิตยาว ลองใช้ รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ จัดพอร์ตให้ตรงงวดเงินเข้า ลดดอกซ้ำซ้อน และให้เงินสด “ทันรอบ” จริง
การบริหารต้นทุนทางการเงินเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน การรีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาเพื่อลดภาระดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างหนี้ และเสริมสภาพคล่องให้กับกิจการ
[เช็กคุณสมบัติ] [เช็กลิสต์เอกสาร] กลับหน้าแม่: รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
สินเชื่อประเภทนี้มักเป็นตัวเลือกแรกที่ควรพิจารณารีไฟแนนซ์ โดยเฉพาะสินเชื่อระยะสั้นที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น
ธุรกิจการผลิตแตกต่างจากค้าปลีกตรงที่รอบเงินสด (Cash Conversion Cycle) ยาวกว่า ปกติจะไหลตามลำดับ PO (ใบสั่งซื้อ) → วัตถุดิบ (Raw) → งานระหว่างผลิต (WIP) → สินค้าสำเร็จรูป (FG) → ลูกหนี้การค้า (AR) กว่าจะรับชำระจริงอาจกินเวลา 60–150 วัน หากระหว่างนี้ใช้วงเงินผิดประเภท เช่น ใช้ OD (วงเงินเบิกเกินบัญชี) แทนการลงทุนเครื่องจักร หรือปล่อยให้ OD ค้างยาวไม่โปะ ดอกเบี้ยจะลอยสะสมโดยไม่รู้ตัว
อาการที่พบในโรงงาน
▲ ค้างวัตถุดิบ/ชิ้นส่วนในสต็อกมากกว่าปกติ ทำให้เงินจม
▲ งานระหว่างผลิตนานกว่าที่คาด ส่งผลให้รับเงินช้า
▲ เครดิตเทอมลูกค้ายาว 60–120 วัน แต่ภาระค่างวดมาเร็วกว่านั้น
▲ ใช้ OD ไปปิดค่างวดระยะยาวซ้ำ ๆ จนยอดคงค้างสูง
ทางออก คือการใช้ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ เพื่อ “จัดบ้านการเงิน” ให้ตรงกับธรรมชาติของงานผลิต แยกก้อนที่เป็นการลงทุนระยะยาวออกจากการหมุนเวียนจริง และผูกตารางชำระกับ “วันที่เงินเข้า” อย่างมีวินัย
เป้าหมายคือให้เงินสด พร้อมใช้ในจังหวะผลิต และ ไหลกลับทันทีเมื่อมีเงินเข้า เพื่อลดดอกสะสมและคุมความเสี่ยง
ลงทุนระยะยาว (เครื่องจักร/ไลน์ผลิต/แม่พิมพ์)
▲ เหมาะกับ ผ่อนรายงวด/เช่าซื้อ เพื่อให้ค่างวดคงที่ วางแผนต้นทุนต่อหน่วยได้
▲ ข้อควรทำ: ขอเงื่อนไข ปิดก่อนกำหนด ที่เป็นธรรม เผื่อกรณีมีแผนโปะจากกำไรพิเศษ
หมุนเวียนแท้จริง (วัตถุดิบ/ค่าแรง/ค่าสาธารณูปโภค)
▲ ใช้ OD เท่าที่จำเป็น ตั้งกติกา “วันเงินเข้า = วันโปะ” ลดดอกสะสม
▲ ตั้งเพดาน OD เริ่มต้น 1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน + สำรอง 10–20% แล้วปรับตามจริง
ลูกหนี้เครดิตเทอมยาว (AR)
▲ ใช้ แฟคตอริ่ง (ขายสิทธิเรียกร้องลูกหนี้บางส่วนเพื่อรับเงินสดล่วงหน้า) กับบิลลูกค้าคุณภาพดี ตัดรอบเงินเพื่อไม่ต้องพึ่ง OD มากเกินไป
คำสั่งซื้อ/นำเข้าเฉพาะครั้ง
▲ กรณีสั่งเครื่องจักร/ชิ้นส่วนจากต่างประเทศ อาจใช้วิธีตั๋ว/เอกสารการค้าตามเงื่อนไขธนาคารของคุณ (เลือกใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อลดต้นทุนเอกสาร)
เมื่อ รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ แล้วพอร์ตเข้าที่ มักเห็นผล 3 อย่าง: ค่างวด “เข้ากับรอบเงินเข้า”, ดอกเบี้ยรวมลดลง, และสัดส่วนเงินสดคงเหลือปลายเดือนดีขึ้น
ขั้นที่ 1: วาดแผนที่รอบเงินสดของโรงงาน
▲ ระบุระยะเวลาเฉลี่ยในแต่ละช่วง: สั่งซื้อวัตถุดิบ → ผลิต → ส่งมอบ → ออกบิล → รับชำระ
▲ ระบุ “เดือนพีค–โลว์” ของทั้งยอดขายและเงินเข้า
ขั้นที่ 2: แยกก้อนหนี้ตามบทบาท
▲ ก้อนลงทุนระยะยาว → ย้ายไปผ่อนรายงวด/เช่าซื้อให้หมด
▲ ก้อนหมุนเวียน → คงใน OD ที่พอดี พร้อมกติกาโปะ
▲ AR ที่ยาว → ใช้แฟคตอริ่งบางส่วน (ไม่จำเป็นต้องทุกบิล)
ขั้นที่ 3: คำนวณเพดาน OD และทุนหมุนเวียนขั้นต่ำ
▲ ใช้สูตรเริ่มต้น (1–1.5× ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน + 10–20% สำรอง)
▲ ปรับตามออเดอร์จริง ถ้าโรงงานมี Seasonal สูง ให้เผื่อช่วงพีค
ขั้นที่ 4: กำหนดค่างวดให้ ‘ชน’ วันเงินเข้า
▲ ตั้งตารางผ่อนของหนี้ระยะยาวให้ใกล้วันรับชำระหลัก
▲ ตั้งระบบอัตโนมัติให้ โปะ OD เมื่อเงินเข้าบัญชี
ขั้นที่ 5: ขอข้อเสนอรีไฟแนนซ์ 2–3 แห่ง
▲ ดูทั้งอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม เงื่อนไขปิดก่อนกำหนด
▲ สำหรับโรงงาน ให้แนบข้อมูลรอบผลิต/AR Aging (อายุลูกหนี้) เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น
ขั้นที่ 6: สรุปและย้ายสัญญา
▲ ปิดบัญชีเดิม ย้ายหนี้ลงทุนไปผ่อนรายงวด
▲ คุม OD ให้เหลือ “พอดีงาน” พร้อมตั้งเพดานเฝ้าระวัง
ขั้นที่ 7: แผนโปะตามเหตุการณ์
▲ โปะเมื่อ “ออกบิลแล้วได้รับชำระ” หรือ “ปิดโปรเจกต์แล้ว” เป็นเปอร์เซ็นต์คงที่
▲ ทบทวนทุกไตรมาส ปรับเพดาน OD และแผนโปะตามฤดูกาล
ตัวเลขเป็นตัวอย่างเพื่ออธิบายแนวทาง ไม่ใช่ข้อเสนอจริง
เคส A: โรงงานผลิตตามสั่ง (Make-to-Order)
อาการ: ออเดอร์ไม่สม่ำเสมอ เงินเข้าเป็นก้อนหลังส่งมอบ 60–90 วัน
แนวทาง: รีไฟแนนซ์ก้อนเครื่องจักรไปผ่อนรายงวด คง OD ระดับ 1.2× ค่าใช้จ่ายคงที่ ตั้ง Trigger โปะเมื่อ AR จากงานนั้นถูกชำระ ใช้แฟคตอริ่งเฉพาะลูกค้าหลัก
ผลที่คาด: ดอกเบี้ยรวมลดลง ค่างวดไม่ชนช่วงไม่มีงาน และ OD ไม่ค้างยาว
เคส B: โรงงาน OEM รอบผลิตชัดเจน
อาการ: มีแผนการผลิตแน่น แต่เครดิตเทอม 90–120 วัน
แนวทาง: เพ่ิมสัดส่วนแฟคตอริ่งในบิลลูกค้ารายใหญ่ 1–2 ราย เพื่อตัดรอบเงินสด ลดการพึ่ง OD และผูกค่างวดระยะยาวให้ชนวันรับเงินก้อน
ผลที่คาด: เงินสดคงเหลือปลายเดือนสูงขึ้น และเสถียรกว่าเดิม
เคส C: ผู้ค้าส่งที่มีไลน์ผลิตเสริม
อาการ: สต็อกและงานผลิตกินเงินสด ช่วงโปรโมชั่นต้องวางเงินก่อน
แนวทาง: รีแพ็กเกจสต็อกหลักไปผ่อนระยะยาวบางส่วน เพื่อลดแรงกด OD; คุม OD ให้พอดีและโปะทันทีเมื่อขายออก
ผลที่คาด: ค่างวดสมดุลขึ้น ต้นทุนการเงินรวมลด และสต็อกไม่ดึงเงินเกินจำเป็น
บทเรียนร่วมกันคือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ จะได้ผลเมื่อ “เงินเข้า” สามารถไหลกลับไปลดภาระหนี้ได้ทันทีตามกติกาโปะที่ตั้งไว้
เอกสารที่ควรเตรียม (นอกเหนือจากงบและสเตทเมนต์มาตรฐาน)
▲ แผนการผลิตรายเดือน (Production Plan) 3–6 เดือนข้างหน้า
▲ AR Aging (อายุลูกหนี้) แยกตามรายลูกค้าและเครดิตเทอม
▲ Inventory Report: วัตถุดิบ–WIP–FG พร้อมรอบหมุนเฉลี่ย
▲ PO/สัญญาซื้อขาย ที่กำลังดำเนินการและกำหนดส่งมอบ
▲ ตารางค่าใช้จ่ายคงที่ รายเดือน (เงินเดือน ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค) เพื่อช่วยกำหนดเพดาน OD
เทคนิคต่อรองสำหรับโรงงาน
▲ ขอระบุในสัญญาว่า รีวิวอัตรา ตามภาวะตลาดได้เป็นระยะ
▲ ขอ งวดยืดหยุ่นตามฤดูกาล (งวดบางช่วงเบา–บางช่วงหนัก) พร้อมแผนโปะช่วงพีค
▲ ต่อรอง ค่าปรับปิดก่อนกำหนด ให้ยืดหยุ่น หากมีแผนโปะจากกำไรโปรเจกต์
▲ ใช้ข้อเสนอจาก 2–3 แห่งเป็น “แรงเทียบ” อย่างสุภาพและโปร่งใส
ตัวชี้วัดหลังรีไฟแนนซ์ 1–3 เดือน
▲ เงินสดคงเหลือปลายเดือน สูงขึ้นเทียบฐานเดิม
▲ สัดส่วนค่างวด/รายได้ อยู่ใต้เพดานที่ตั้ง (เช่น ไม่เกิน X%)
▲ ยอดคงค้าง OD ลดลงตามแผนโปะ “วันเงินเข้า = วันโปะ”
▲ ดอกเบี้ยรวม ตลอดอายุสัญญาใหม่อยู่ในกรอบที่ยอมรับ
▲ DSCR (อัตราความสามารถชำระหนี้ = เงินสดจากกิจการ ÷ ภาระหนี้ต่อปี) เท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม
• รีไฟแนนซ์ธุรกิจคืออะไร? — ความหมาย ขั้นตอน เอกสาร ค่าใช้จ่ายที่พบบ่อย
• คุ้มไหมถ้าจะย้ายหนี้ — วิธีคิดเลขจุดคุ้มทุนแบบง่าย ๆ
• เพลย์บุ๊ก ลดดอกเบี้ย — แนวทางต่อรอง เปลี่ยนฐานดอกเบี้ย ยืดงวดเท่าที่จำเป็น
• รวมหนี้ธุรกิจหลายก้อน — รวมเป็นก้อนเดียวให้ง่ายขึ้นและลดค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
• รีไฟแนนซ์ระยะสั้น — คลายค่างวดเฉพาะช่วงที่เงินตึง
• สำหรับโรงงาน/การผลิต — จับคู่สินเชื่อให้ “ทันรอบเงินสด”
กลับหน้าแม่: รีไฟแนนซ์สินเชื่อเพื่อธุรกิจ