หน้าหลัก > ความรู้ > แหล่งเงินทุน > เงินกู้นอกระบบ vs เงินกู้ในระบบ เลือกแหล่งเงินทุนอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ
หน้าหลัก > ความรู้ > แหล่งเงินทุน > เงินกู้นอกระบบ vs เงินกู้ในระบบ เลือกแหล่งเงินทุนอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ
เงินกู้นอกระบบ vs เงินกู้ในระบบ เลือกแหล่งเงินทุนอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ
เมื่อเปรียบเทียบ แหล่งเงินทุน ระหว่าง “นอกระบบ” กับ “ในระบบ” สิ่งสำคัญคือความปลอดภัยทางกฎหมาย ความโปร่งใสของสัญญา และต้นทุนรวมจริง บทความนี้สรุปข้อดี–ข้อเสียแบบเข้าใจง่าย พร้อมเช็กลิสต์สัญญาณเตือน และกรอบตัดสินใจเบื้องต้น เพื่อช่วยวางแผน เงินทุน ที่เหมาะกับธุรกิจ
• ไปที่ เช็กคุณสมบัติ | เช็คลิสเอกสาร |
• อ่านหน้าลูก: ทุนหมุนเวียนสำหรับ SME | ออนไลน์ ธนาคาร vs Non-Bank: ใครเหมาะกับใคร?
เงินกู้นอกระบบ คือการกู้ยืมจากผู้ให้กู้ที่อยู่นอกการกำกับดูแลตามกฎหมายหรือไม่มีมาตรฐานสัญญาชัดเจน จุดเด่นที่มักโฆษณาคือ “เร็ว” และ “ไม่ซับซ้อน” แต่ความเสี่ยงสูงมาก ทั้งด้านกฎหมาย ดอกเบี้ยแฝง และการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม
เงินกู้ในระบบ คือแหล่งทุนจากธนาคาร สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตและกำกับดูแล สัญญาโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีข้อกำหนดชัดเจน แม้ขั้นตอนจะมากกว่าเล็กน้อย แต่ช่วยปกป้องผู้กู้และยกระดับความน่าเชื่อถือของธุรกิจในระยะยาว
สรุปเร็ว: “เร็วอย่างเดียว” ไม่เพียงพอ—เงินที่ปลอดภัย โปร่งใส และคืนได้ตามแผน คือเงินที่ช่วยให้ธุรกิจเดินต่ออย่างยั่งยืน
นอกระบบ
ข้อดี: ได้เงินไว ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เอกสารน้อย
ข้อเสีย: เสี่ยงผิดกฎหมาย สัญญาไม่ชัดเจน ดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียมแฝงสูง โดนกดดันทวงหนี้ได้ง่าย กระทบชื่อเสียงและโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนที่ดีกว่าในอนาคต
ในระบบ
ข้อดี: โปร่งใส ตรวจสอบได้ ส่งผลดีต่อเครดิตธุรกิจหากจ่ายตรงเวลา มีเครื่องมือให้เลือกตามวัตถุประสงค์ เช่น เงินทุนหมุนเวียน อย่างวงเงินหมุนเวียน (OD) หรือการเร่งรับเงินจากใบแจ้งหนี้ผ่านแฟกตอริ่ง (Factoring) รวมถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนแบบงวดผ่อนคงที่
ข้อเสีย: ต้องเตรียมเอกสารและใช้เวลาพิจารณาตามมาตรฐาน แต่แลกกับความปลอดภัยและต้นทุนรวมที่คาดการณ์ได้
มุมที่ผู้ประกอบการมักพลาด: เห็น “อนุมัติไว” แล้วตัดสินใจทันทีโดยไม่อ่านเงื่อนไข ส่วนต่างดอกเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์อาจไม่เยอะ แต่ “ค่าธรรมเนียมแฝง” ทำให้ต้นทุนรวมจริงสูงกว่าที่คิดหลายเท่า
กฎหมายมาก่อน: เลือกเฉพาะผู้ให้บริการที่ตรวจสอบได้ สัญญามาตรฐาน
โปร่งใส: ต้องเห็นอัตราดอก ค่าธรรมเนียม เงื่อนไขผิดนัด และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ชัดเจนก่อนลงนาม
วัตถุประสงค์ชัด: ถ้า “หมุนเวียน/รอเงินเข้า” ให้มอง OD/Factoring; ถ้า “ลงทุนซื้ออุปกรณ์/ขยายกิจการ” ให้ใช้สินเชื่อระยะยาวหรือเช่าซื้อ แยกจากเงินหมุนเวียน
เอกสารพร้อมแค่ไหน: ถ้าพร้อมดี (สเตทเมนต์ 6–12 เดือน เอกสารรายได้/ภาษีครบ) ช่องทางออนไลน์ในระบบให้คำตอบไว
วันเงินเข้าตรงกับแผนคืนเงินหรือไม่: ยิ่งชัด ยิ่งลดต้นทุนดอกได้—โดยเฉพาะกรณี OD ที่ควร “โปะทันทีเมื่อเงินเข้า”
ผลต่อเครดิตในอนาคต: ทางเลือกในระบบช่วยสร้างเครดิตที่ดี ทำให้อนาคตขอวงเงิน/เงื่อนไขดีขึ้น
มีช่องทางสำรองหรือไม่: วาง “แผน B” เช่น สมัครออนไลน์คู่กับเตรียมแฟกตอริ่งไว้ หากคำตอบแรกไม่ทันรอบเงินเข้า
ถ้าตอบ “ไม่ชัด” มากกว่า 2 ข้อ แนะนำถอยหนึ่งก้าว กลับไปทำ เช็คลิสเอกสาร และประเมินที่ เช็กคุณสมบัติ ก่อน
สถานการณ์ A: ต้องใช้เงินภายใน 7–14 วัน
ถ้ารอบเงินเข้า “ชัดเจน” เช่น มีใบสั่งซื้อที่รอจ่าย/ลูกค้าประจำจ่ายวันแน่นอน → เลือก OD วงเงินเล็กพอใช้งาน และตั้งวินัย “วันเงินเข้า = วันโปะ” หรือใช้ Factoring เร่งเงินจากใบแจ้งหนี้ของลูกค้าบริษัทที่เชื่อถือได้
ถ้ารอบเงินเข้า “ยังไม่แน่” แต่เอกสารธุรกิจครบ → พิจารณา “ช่องทางออนไลน์ในระบบ” ที่ตรวจเอกสารดิจิทัลและรู้ผลไวกว่าไปสาขา
สถานการณ์ B: กระแสเงินสดสะดุดชั่วคราว
โจทย์หลักคือเติม เงินทุนหมุนเวียน แบบยืดหยุ่น → OD ตอบโจทย์ถ้าควบคุมวินัยการโปะได้ดี และอาจจับคู่ Factoring กับลูกค้ารายที่จ่ายช้าเพื่อลดช่วงรอเงิน
หลีกเลี่ยงการใช้ทางเลือกที่ไม่โปร่งใส แม้จะดูเร็ว เพราะความเสี่ยงกฎหมายและค่าปรับเมื่อผิดนัดอาจสูง
สถานการณ์ C: ต้องซื้ออุปกรณ์/ซ่อมเครื่องจักรด่วน
แม้จะเร่งด่วน แต่ก็ยังเป็น “การลงทุน” → ใช้ เช่าซื้อ (HP) หรือสินเชื่อระยะยาว แยกจาก OD เพื่อไม่ให้เงินหมุนเวียนตึงและตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้
เตรียมใบเสนอราคาหรือสเปกอุปกรณ์ให้พร้อม เพื่อให้กระบวนการอนุมัติในระบบเดินเร็วขึ้น
อยากวางสูตรวงเงินและวินัยการใช้ OD/Factoring ให้เป็นระบบ อ่านต่อที่ ทุนหมุนเวียนสำหรับ SME
เอกสารหลัก (ควรพร้อมภายใน 48 ชั่วโมง):
สเตทเมนต์บัญชีธุรกิจ 6–12 เดือนล่าสุด
หลักฐานรายได้และเอกสารภาษีล่าสุด
รายการลูกหนี้–เจ้าหนี้ โดยระบุรอบรับ–จ่ายอย่างคร่าว ๆ
ใบเสนอราคา/สเปกอุปกรณ์ (กรณีลงทุน) หรือสำเนาใบแจ้งหนี้ (กรณีจะใช้ Factoring)
สรุปเหตุผลขอวงเงิน 1 หน้า: ใช้อะไร นานเท่าไร คืนอย่างไร
ขั้นตอนยื่นแบบย่อ:
กำหนดวัตถุประสงค์และวงเงินที่ “พอดีใช้”
รวมเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลชุดเดียว (ลดวนถามซ้ำ)
เลือกแหล่งทุนในระบบ 1 ช่องทางหลัก + 1 ช่องทางสำรอง (เช่น ออนไลน์ในระบบ + Factoring)
ยื่นและติดตามสถานะ—อ่านสัญญาให้ครบก่อนกดยอมรับ
หลังอนุมัติ ตั้งวินัยใช้ OD และวางตารางโปะตามวันเงินเข้า
ได้อ่าน อัตราดอก + ค่าธรรมเนียม + เงื่อนไขผิดนัด ครบถ้วนแล้วหรือยัง
สัญญาระบุวิธีคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นลายลักษณ์อักษร (ไม่มี “บอกปากเปล่า”)
มี วันเงินเข้า ที่สอดคล้องกับวันชำระจริง และแผนโปะที่เป็นไปได้
วงเงิน “พอดีใช้” ไม่เกินความจำเป็น เพื่อควบคุมต้นทุน
เลือก “ในระบบ” เป็นหลัก ถ้ามีความเสี่ยงเรื่องกฎหมาย/ชื่อเสียง
มี แผนสำรอง หากคำขอแรกไม่ผ่านหรือไม่ทันกำหนด
สรุปสุดท้าย: ความเร็วสำคัญ แต่ความปลอดภัยสำคัญกว่า ทางเลือกในระบบ—ทั้งสาขาและออนไลน์—ให้สมดุลที่ดีระหว่างความเร็ว ความโปร่งใส และต้นทุนรวมจริง หากเป็นเรื่องหมุนเวียน ให้ใช้เครื่องมือยืดหยุ่นอย่าง OD/Factoring พร้อมวินัยการใช้ หากเป็นการลงทุน ให้แยกวงเงินด้วยสินเชื่อระยะยาวหรือเช่าซื้อ เพื่อไม่ให้ เงินทุนหมุนเวียน ตึง และรักษาสุขภาพการเงินของธุรกิจระยะยาว
• กลับไปหน้าแม่ แหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจ | เช็กคุณสมบัติ | เช็คลิสเอกสาร