กลับหน้าแม่ (Hub): → คู่มือสินเชื่อเพื่อธุรกิจ
เปิดสาขาแฟรนไชส์ให้ “ผ่อนไหวจริง” ต้องจับคู่วงเงินกับโมเดลรายได้: Term/Leasing สำหรับ Fit-out & อุปกรณ์ + OD สำหรับเงินหมุนช่วงเปิดร้าน พร้อมวาง DSCR/DSR/Drawdown/Step-up ให้สอดคล้องยอดขายที่ค่อย ๆ ไต่ระดับ
บทสรุปทางการเงิน: ต้องใช้ “ชุดวงเงิน” ไม่ใช่สินเชื่อตัวเดียว โดยให้ค่างวดช่วงแรกเบา (Step-up/Grace) และมี OD ขนาดพอดี ครอบช่วงเงินเข้า–ออกที่ไม่พร้อมกัน
ลิงก์กลับ Hub : คู่มือสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (2568)
2.1 Term / Investment Loan (สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ระยะยาว)
ใช้เมื่อต้องการเงินก้อนเพื่อ “เริ่ม–ขยาย” เช่น ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ อุปกรณ์ รีโนเวท
ผ่อนเป็นงวดรายเดือน ค่างวดคงที่ หรือแบบ ลดต้นลดดอก (ดอกเบี้ยคำนวณจากเงินต้นที่เหลือ)
เหมาะกับการวางแผนต้นทุนระยะยาวของร้าน เปิดสาขาใหม่ หรืออัปเกรดอุปกรณ์หลัก
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และค่าธรรมเนียมก่อนตัดสินใจ
2.2 วงเงินหมุนเวียน (Working Capital / Revolving Line)
สำหรับค่าใช้จ่ายหมุนเวียน: สต๊อก วัตถุดิบ โปรโมชันช่วงเปิดร้าน
เบิก–ใช้–คืนได้ยืดหยุ่น จ่ายดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่ใช้จริง
ดีต่อการรับมือยอดขายขึ้นลงระยะสั้น และเติมสภาพคล่องรายวันของแฟรนไชส์
2.3 เช่าซื้อ/ลีสซิ่ง (HP/Leasing) สำหรับอุปกรณ์
เหมาะกับการซื้อเครื่องครัว เครื่องทำความเย็น เครื่องชง ฯลฯ
ผ่อนตามอายุการใช้งานอุปกรณ์ ช่วยกระจายเงินก้อน
ดูเงื่อนไขค่าเช่า ค่าโอนกรรมสิทธิ์ และประกันอุปกรณ์ควบคู่
2.4 สินเชื่อแฟรนไชส์ (แพ็กเกจเฉพาะแบรนด์/พาร์ตเนอร์)
บางแบรนด์มีดีลกับธนาคาร ทำให้ สินเชื่อแฟรนไชส์ เข้าถึงง่ายขึ้น
จุดเด่นคือเกณฑ์ชัด วงเงินสอดคล้องต้นทุนมาตรฐานของแบรนด
ตรวจขั้นตอนอนุมัติ เอกสารที่ต้องใช้ และสิทธิประโยชน์เฉพาะโครงการ
2.5 สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก / Micro SME
สำหรับผู้เริ่มต้นหรือยอดขายยังไม่สูงมาก
วงเงินเล็ก–กลาง อนุมัติไว เอกสารไม่ซับซ้อน
ใช้เสริมทุนหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายช่วงตั้งไข่ให้ร้านเดินได้ต่อเนื่อง
2.6 Factoring / เงินหมุนเวียนจากบิล (ขายใบแจ้งหนี้)
ใช้ได้เมื่อมีการค้าขายแบบวางบิลกับคู่ค้า
เปลี่ยนยอดขายที่รอชำระให้เป็นเงินสดเร็วขึ้น
เหมาะกับแฟรนไชส์ B2B หรือมีสัญญาซื้อขายชัดเจน
2.7 พันธมิตร/ร่วมทุน (Partner Financing)
บางกรณีเจ้าของแฟรนไชส์หรือนักลงทุนร่วมทุน
ลดภาระหนี้ เพิ่มแนวทางแบ่งความเสี่ยง
ต้องกำหนดเงื่อนไขสิทธิ์–หน้าที่และการแบ่งกำไรให้ชัดเจน
วิธีเลือกให้คุ้ม: จับคู่ “วัตถุประสงค์เงิน” กับผลิตภัณฑ์ให้ตรง — เงินก้อนลงทุนใช้ Term / Investment Loan (สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ระยะยาว), ค่าใช้จ่ายประจำใช้ วงเงินหมุนเวียน, อุปกรณ์ใหญ่ใช้ เช่าซื้อ/ลีสซิ่ง, เริ่มเล็กใช้ สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก, มีบิลรอรับเงินใช้ Factoring. จากนั้นเทียบดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน วงเงินรวม และค่าธรรมเนียมจากหลาย แหล่งเงินทุน เพื่อให้แฟรนไชส์เดินหน้าได้มั่นคงและคุ้มทุนที่สุด.
ลิงก์อ่านต่อ (ต่าง intent ภายในคลัสเตอร์)
→ เสริมสภาพคล่อง (OD/Working Capital): สูตร OD/Factoring ที่ใช้ได้จริง
→ เช่าซื้อ / Leasing: รักษากระแสเงินสดสำหรับอุปกรณ์/ยานพาหนะ
ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน × 1.0–1.5 + สำรอง 10–20%
หาก เดลิเวอรี > 40% และรับเงิน ≥ T+14 ให้ใช้ค่าเฉลี่ย 3–6 เดือน แรก และตั้งสำรอง 20%
ตัวอย่างร้านแฟรนไชส์กาแฟ (สาขาใหม่ในห้าง)
ค่าใช้จ่ายคงที่/เดือน ~260,000 (ค่าเช่า+แรงงานหลัก+สาธารณูปโภค+การตลาดกองกลาง)
เดลิเวอรีสัดส่วน 35% เงินเข้า T+14
แนะนำ OD ตั้งต้น ≈ 260,000 × 1.3 + 10% ≈ 371,800 บาท
ชุดวงเงินรวม:
Term 1.8 ลบ. (Fit-out) → Grace 3 เดือน + Step-up 3 ระยะ
Leasing 0.7 ลบ. (อุปกรณ์) → ค่างวดเริ่ม 18,000/ด.
OD 0.38 ลบ. (หมุนเปิดร้าน)
สมมติเงินสดจากการดำเนินงาน (ฐานเดือน 4 เป็นต้นไป) = 110,000/ด.
ค่างวดช่วง Step 1: Term 35,000 + Leasing 18,000 + ดอก OD เฉลี่ย 7,000 ⇒ รวม ~60,000/ด.
DSCR ฐาน ≈ 110,000 ÷ 60,000 = 1.83 (ผ่านสบาย)
Scenario −20% เงินสด ~70,000 ⇒ ยัง ≥ 1.0
แผน ปิด/ลด OD: ใช้กำไรจากเทศกาล/เมนูใหม่ปิด 20–30% ทุกไตรมาส
กฎจำง่าย: ค่อย ๆ เพิ่มค่างวดตามยอดขายจริง (Step-up) + ใช้ OD เฉพาะช่วงแรก แล้วบันทึกการปิด/ลดเป็นหลักฐานตอนรีวิววงเงิน
ตัวแปรนอกงบที่กระทบ DSCR/DSR อย่างแรงคือ “การส่งมอบพื้นที่” และ “ฤดูกาลทราฟฟิก”
ทำเล & สัญญาเช่า
พื้นที่ห้าง/สถานี/ออฟฟิศ: มีฤดูกาลชัด—ผูก วัน Soft opening ให้ก่อนช่วงทราฟฟิกสูง 2–4 สัปดาห์
อ่านเงื่อนไข Free-rent/(ถ้ามี) เพื่อลดเงินสดไหลออกในช่วงยังไม่เปิดขาย
ไทม์ไลน์งานระบบ–ติดตั้ง
ทำ แผน Gantt ง่าย ๆ: เซ็นสัญญาเช่า → งานระบบ → ติดตั้ง → ทดสอบ → เทรนนิ่ง → Soft opening → Grand opening
จับคู่ Drawdown ตาม Milestone เพื่อลดดอกช่วงยังไม่ก่อรายได้
Step-up / Seasonal
พื้นที่ท่องเที่ยว/มหาวิทยาลัย → ใช้ Seasonal ให้ค่างวดเบาช่วงโลว์ และหนักขึ้นช่วงพีก
บันทึกเหตุผลเชิงตัวเลข (ทราฟฟิก/ยอดขายพยากรณ์) เพื่อคุยกับผู้ให้กู้
Franchise Disclosure/ข้อมูลแบรนด์: โมเดลรายได้, Royalty, Marketing Fund, KPI (AUV/ยอดต่อสาขาเฉลี่ย)
สัญญาแฟรนไชส์/LOI และ สัญญาเช่าพื้นที่ (ร่าง/ฉบับจริง), ผัง/แบบก่อสร้าง, ใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง
ใบเสนอราคา–สเปกอุปกรณ์ (สำหรับ Leasing/Term) + ตารางส่งมอบ/ติดตั้ง
แผนยอดขาย & Cash-flow 12 เดือนแรก (ฐาน/ดีขึ้น/แย่ลง ±20%), แยกช่องทางหน้าร้าน/เดลิเวอรี
ตารางค่างวด (Amortization/Step-up/Seasonal) + แผน ปิด/ลด OD รายไตรมาส
หลักฐานทีมปฏิบัติการ: ตำแหน่ง/ตารางกะ/การอบรมตามคู่มือแบรนด์
รูป/โลเกชันรีวิว: ทราฟฟิก/เพื่อนบ้าน/ช่วงเวลาคนหนาแน่น (เป็นภาพประกอบเหตุผลเชิงยอดขาย)
เคล็ดลับสไลด์ 1 หน้า (สำหรับคุยอนุมัติ)
ซ้ายบน: วัตถุประสงค์ & ชุดวงเงิน (Term/Leasing/OD)
ขวาบน: KPI หลัก (DSCR ฐาน/−20%, DSR, LTV)
กลาง: กราฟเงินสดคงเหลือ 12 เดือน + เส้นค่างวด (Step-up) + จุด Drawdown
ล่าง: รูปทำเล/ผังร้าน/ตารางเปิดร้าน + หมายเหตุ Free-rent (ถ้ามี)
OD วินัยเหล็ก: วางเป้า “ปิด/ลดรายไตรมาส” และ ไม่ใช้เต็มถาวร; เก็บหลักฐานการปิด/ลดในสเตทเมนต์
KPI รายเดือน: ยอดขาย/บิลเฉลี่ย/COGS%/แรงงาน%/สัดส่วนเดลิเวอรี/ผลกระทบโปรโมชัน → หากต่ำกว่าแผน ให้ปรับงวดด้วย Seasonal หรือยืด tenor อย่างมีเหตุผล
รีไฟแนนซ์โครงสร้าง: เมื่อยอดขายนิ่ง 6–12 เดือน และ DSCR > เป้า สม่ำเสมอ ให้พิจารณารีไฟแนนซ์เพื่อลดดอก/ยืดเส้น ลด DSR รวม
การขยายหลายสาขา: ใช้ผลลัพธ์สาขาแรกเป็น Track Record เพิ่มวงเงินสาขาถัดไป แต่ระวังไม่ให้ OD โตเร็วกว่ายอดขายจริง
ลิงก์อ่านต่อ (ภายในคลัสเตอร์ “เพื่อธุรกิจ”)