ในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน รัฐบาลไทยได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมธุรกิจส่งออกซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเปิดตัวมาตรการสินเชื่อพิเศษหลายโครงการ โดยมุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ให้สามารถขยายตลาดส่งออกและเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหากท่านสนใจสินเชื่อเพื่อการส่งออก
โครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่ม RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
รายละเอียดโครงการ:
อัตราดอกเบี้ย: เริ่มต้นเพียง 2.75% ต่อปีในปีแรก
วงเงินสูงสุด: 50 ล้านบาทต่อราย
หลักประกัน: สามารถใช้หนังสือค้ำประกันจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ร่วมกับบุคคล/นิติบุคคลค้ำประกัน สำหรับวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
สิทธิพิเศษ: 500 รายแรกที่ยื่นขอสินเชื่อจะได้รับ Voucher บริการประกันการส่งออกมูลค่า 2,200 บาท
ระยะเวลาโครงการ: ตั้งแต่บัดนี้ถึง 29 กรกฎาคม 2565
สินเชื่อนี้มุ่งเน้นสนับสนุนธุรกิจที่ดำเนินการตามแนวทางเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
รายละเอียดโครงการ:
อัตราดอกเบี้ย: เริ่มต้นที่ 4% ต่อปี
วงเงินสูงสุด: 200 ล้านบาทต่อราย
ระยะเวลากู้: สูงสุด 3 ปี
สิทธิพิเศษ: ฟรี! วงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) 1 เท่าของวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ
ระยะเวลาโครงการ: ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 เมษายน 2567
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ทันสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม
รายละเอียดโครงการ:
อัตราดอกเบี้ย: 3% ต่อปีใน 3 ปีแรก
วงเงินสูงสุด: 15 ล้านบาทต่อราย
ระยะเวลากู้: ไม่เกิน 7 ปี
ผู้ให้บริการสินเชื่อ: ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
กลุ่มเป้าหมาย: SMEs ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หรือมีศักยภาพเติบโตสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0
ระยะเวลาโครงการ: ภายใน 12 เดือนนับจากวันที่ ครม. มีมติ หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน
การเข้าร่วมโครงการสินเชื่อพิเศษเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์หลายประการ ดังนี้:
เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ - ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน เสริมสภาพคล่องและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ
ลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน - ด้วยบริการพิเศษเช่น Forward Contract ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม - ช่วยยกระดับธุรกิจสู่มาตรฐานสากล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม - สอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อควรเตรียมเอกสารสำคัญ ดังนี้:
เอกสารจดทะเบียนธุรกิจและหลักฐานการดำเนินกิจการ
งบการเงินย้อนหลัง 2-3 ปี
แผนธุรกิจและเป้าหมายการส่งออก
หลักฐานการค้าระหว่างประเทศ เช่น Letter of Credit หรือสัญญาซื้อขายกับคู่ค้าต่างประเทศ
เอกสารแสดงหลักประกัน (ถ้ามี)
มาตรการสินเชื่อพิเศษเพื่อธุรกิจส่งออกที่รัฐบาลไทยร่วมกับ EXIM BANK และสถาบันการเงินต่างๆ จัดทำขึ้นนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขันและขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง การได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคง ผู้ประกอบการจึงควรพิจารณาโอกาสนี้เพื่อยกระดับธุรกิจสู่เวทีการค้าระหว่างประเทศอย่างเต็มศักยภาพ
หากท่านสนใจขอรับสินเชื่อพิเศษเพื่อธุรกิจส่งออก สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและยื่นคำขอได้ที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) หรือสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ และหากท่านสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสินเชื่อเพื่อการส่งออก
#สินเชื่อเพื่อการส่งออก #สินเชื่อถูกกฎหมาย #EXIMBank #ธุรกิจส่งออก #SMEs #สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ #RCEP #GreenEconomy